เดิมหม่าหลันก็ไม่ใช่คนดี
อีกทั้งเธอยิ่งไม่ใช่คนมีเมตตา
เมื่อสักครู่จิตใต้สำนึกของหม่าหลันเตือนสาวชาวจีนคนนี้ ให้เธออย่าไปขัดใจโคลอี้ นั่นเป็นหม่าหลันหลายปีมานี้ เป็นจุดสว่างของความเป็นมนุษย์ที่สูงที่สุดแล้ว
ถ้าความเป็นมนุษย์ของหม่าหลันเปรียบเหมือนหลอดไฟ ความเปล่งประกายในเมื่อสักครู่ เป็นไปได้ว่าเป็นหลอดไฟอันนี้ สิบปีมานี้ถูกจุดให้สว่างครั้งหนึ่ง
แต่สิ่งที่บังเอิญแต่ไม่บังเอิญคือ หญิงสาวนักรบจากสำนักว่านหลงสามคนนี้กำลังคิดว่าจะใช้วิธีไหน อย่างไม่มีคำครหา อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งสามารถจัดการได้อย่างเงียบๆ ช่วยสนับสนุนหม่าหลัน เสริมบารมี
คิดไม่ถึงว่าความเป็นมนุษย์เปล่งประกายขึ้นมา เป็นโอกาสให้พวกเธอยืมมาแสดงปัญญา
แต่หลังจากแสดงออกมาแล้ว ภายในใจของหม่าหลันก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเกลียดชัง
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธออยากทำคือตบโคลอี้คนนั้นอย่างหนักๆ อีกทั้งเอาให้ตาย ตบเธอให้ฉี่ราดออกมา
จากนั้น หลังจากนั้นตะโกนออกมาอย่างโมโห เดินตรงเข้าไปด้านหน้าโคลอี้ ยิ่งเห็นใบหน้าของโคลอี้ที่บวมเหมือนกับหน้าหมู เธอยิ่งโมโห
จากนั้นยกเท้าขึ้นมาอย่างไม่ไตร่ตรอง ออกแรงเตะลงไปบนใบหน้าของโคลอี้ อย่างรุนแรง
แป๊บเดียวบนใบหน้าของโคลอี้ถูกเตะจนเป็นรอยเท้าอันใหญ่ ในขณะเดียวกันก็เตะจมูกโด่งของโคลอี้หัก ช่องจมูกทั้งสองเลือดไหลออกมาในทันใด
พูดจบ เธอดึงทึ้งเส้นผมของโคลอี้ ดึงลงมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมทั้งในปาก็ด่าออกมาไม่หยุด:“แม่งเอ๊ยอีหัวแดง ฉันมองเห็นผมอันนี้ของแกรู้สึกขัดหูขัดตาตั้งนานแล้ว แกดูซิฉันให้แกหัวล้านไปเลยยังดีเสียกว่า!”
โคลอี้รู้สึกว่าหนังศีรษะเจ็บปวดอย่างแรง ทันใดมองดูหม่าหลันที่ยื่นมือทั้งสองมาออกแรงดึงผมสีแดงนี้ทิ้งไป
ทันใดเธอตกใจจนวิญญาณหลุดออกจากร่าง พูดออกมาพร้อมทั้งร้องไห้:“อย่าดึงผมของฉัน ขอร้องคุณล่ะอย่าดึงผมของฉัน......”
เวลานี้หม่าหลันดวงตาแดงฉาน เธอพร้อมทั้งดึงลอกผมของโคลอี้ออกมาจนกลายเป็นเหมือนผีที่โกนหัวออกเป็นหย่อมๆ พร้อมทั้งกัดฟันพูดออกมา:“แม่งเอ๊ยตอนนี้แกรู้จักกลัวแล้วเหรอ? ตอนที่แกรังแกฉันทำไมมองไม่ออกว่าแกอ่อนขนาดนี้ แม่งเอ๊ย ถ้าวันนี้อีหม่าไม่ตบหน้าแกให้เหมือนกับดอกท้อบาน แกจะรู้ได้อย่างไรว่าดอกท้อบานทำไมถึงได้แดงขนาดนี้!”
ในตอนที่โคลอี้ถูกนักรบหญิงของสำนักว่านหลงฟาดลงกับพื้น ยังไม่หวาดกลัวมากมายอย่างกับตอนนี้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...