หม่าหลันนึกถึงเรื่องนี้ ภายในใจก็หดหู่โศกเศร้าเสียใจ รำพึงในใจ:“แม่งเอ๊ย ลูกเขยของฉันเก่งขนาดนี้เลยอยู่ที่นิวยอร์กยังรู้จักคนใหญ่คนโตขนาดนี้ แต่ฉันที่เป็นแม่ยาย กลับยังถูกเฉินลี่ผิงกับจงชิวฮวาคนนั้นหลอกจนมึนไปหมด จนล้มไม่เป็นท่า ยิ่งคิดฉันยิ่งโมโห!”
เมื่อมานึกอีกทีที่เมื่อสักครู่โคลอี้พูดว่าตัวเองหลอกลวงคนอื่น ทันใดหม่าหลันโมโหจนลุกเป็นไฟ ยกมือขึ้นมา ซ้ายขวาฟาดลงที่โคลอี้ต่อ ด้วยความโมโหอย่างเหลือล้นด่าออกมา:“แกถือว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้ามาเยาะเย้ยอีหม่าคนนี้ ฉันจะบอกแกนะ อีหม่าถูกคนใส่ร้ายต่างหาก!”
โคลอี้ถูกตบจนเกือบจะหมดสติไป มองดูหม่าหลันอยู่ตั้งนาน อีกทั้งแม้แต่หยุดพักมือยังไม่มี ทันใดร้องไห้พร้อมทั้งขอร้องอ้อนวอนออกมา:“อีหม่าขอร้องคุณปล่อยฉันไปเถอะ......ตบอีกก็ตายจริงๆแล้ว......”
หม่าหลันฟาดลงไปอีก:“นังคนชั่ว!อีหม่าเป็นสิ่งที่แกสามารถเรียกได้เหรอ?”
ใบหน้าทั้งใบของโคลอี้ถูกตบจนกลายเป็นหัวหมู อยากจะเจ็บปวดขนาดไหนก็เจ็บปวดขนาดนั้น แต่ว่า สำหรับการขอร้องอ้อนวอนของเธอ หม่าหลันไม่เพียงไม่ใจอ่อนสักนิด แม้แต่นักโทษคนอื่น อีกทั้งคนสนิทของโคลอี้ยังแอบรู้สึกดี
ความจริงแล้วพวกเธออยากให้โคลอี้ทุกข์ทรมานนานๆ ในวันปกติโคลอี้ต่างกดขี่ข่มเหงคนอื่นนักโทษส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยพอใจเธอ อีกทั้งส่วนใหญ่ต่างเคยถูกเธอด่า เคยถูกเธอตบตี ตอนนี้มองดูคนที่เคยเป็นหัวโจกคนนี้ หกคะเมนกลายเป็นคนที่น่าสงสารอยู่เบื้องหน้านี้ ภายในใจของพวกเธอก็เหมือนได้รับความรู้สึกดีจากการแก้แค้นครั้งยิ่งใหญ่!
เวลานี้ หม่าหลันก็ตบจนเหนื่อยแล้ว
แขนทั้งสองข้างของเธอนั้นปวดเหมื่อยเป็นอย่างมาก ฟาดตบโคลอี้ตั้งนาน ก็ถือว่ากำลังอ่อนล้าแล้ว เวลานี้รู้สึกว่าแขนทั้งสองข้างนั้นไม่ใช่ของตัวเองแล้ว
ตบไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่ความเกลียดภายในใจยังไม่มลาย หม่าหลันกัดฟันพูดกับนักโทษทั้งหมดว่า:“พวกคุณเรียงแถวให้ดี เรียงตามที่ผู้คุมมาตรวจห้อง!”
ทุกคนต่างรู้ว่าหม่าหลันเป็นคนสั่งการของที่นี่ แต่ละคนไม่มีใครกล้าขัด รีบเรียงแถวตามที่ผู้คุมมาตรวจห้องอย่างเป็นระเบียบ
หม่าหลันมองเห็นทั้งหมดต่างเรียงแถวเรียบร้อยแล้ว บังคับบัญชาอยู่ด้านหน้ากลุ่มคนเหล่านี้ อันดับแรกเธอใช้เท้าเตะไปที่คนที่เคยเป็นลูกน้องของโคลอี้มาก่อน เตะไป และก็ด่าไปด้วย:“พวกแกอีพวกชั่ว แต่ละคนต่างช่วยโคลอี้รังแกฉัน พวกแกคิดว่าฉันจำไม่ได้เหรอ?!”
คนเหล่านั้นถูกหม่าหลันเตะไปบนร่างกายจนล้มลงไป แต่ละคนไม่กล้าพูดอะไรออกมา ทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้
หม่าหลันเตะมาเป็นทาง เมื่อเธอมายืนอยู่ด้านหน้าเจสสิก้า สีหน้าแสดงออกมาอย่างเคียดแค้นพูดออกมาว่า:“แม่งเอ๊ยแกเป็นผู้คุมของแกอยู่ดีๆไม่ชอบ ยังอยากจะมาเกลือกกลั้วกับนักโทษข้างใน!ยังแม่งคิดจะมาหลอกเงินอีหม่า แกคิดว่าอีหม่าคนนี้ไร้ความสามารถอย่างนั้นเหรอ!”
พูดออกมาขนาดนี้แล้ว เตะไปบนร่างกายของเจสสิก้าอย่างรุนแรง เจสสิก้าถอยหลังไปหลายก้าวทีเดียว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...