“นายหญิงใหญ่ ?” เย่เฉินถามด้วยความสงสัย : “หรือว่านายหญิงใหญ่ก็เป็นเป้าหมายการลำเลียงสินค้าต้องห้ามด้วย ?”
ว่านพั่วจวินกล่าว : “นี่ยังไม่แน่นอน”
เย่เฉินพูด : “อยากจะยืนยันง่ายนิดเดียว นายไปตรวจดูประวัติการบินของนายหญิงใหญ่คนนี้ในสายการบินช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดูว่าเธอกลับประเทศบ่อยหรือไม่ ครั้งล่าสุดที่กลับประเทศคือเมื่อไหร่”
“ครับ !” ว่านพั่วจวินพูดทันที : “คุณรอสักครู่ ผมจะให้แฮกเกอร์ดึงข้อมูลจากช่องโหว่ของระบบการบินพลเรือน”
ระหว่างที่พูด ว่านพั่วจวินก็กำชับคนที่อยู่ข้าง ๆ สองสามประโยค ไม่ถึงหนึ่งนาที เขาก็พูดกับเย่เฉิน : “คุณเย่ ทางผมค้นเจอแล้ว แปลกเล็กน้อย คุณนายใหญ่คนนี้อย่างน้อยที่สุด 20 ปี ไม่ได้กลับประเทศ และเวลา 20 ปีนี้ เธอไม่ได้นั่งเครื่องบินเลย”
“แปลก...” เย่เฉินคิ้วขมวดพลางพูด : “คนคนหนึ่งที่ 20 ปีไม่นั่งเครื่องบิน และยังเป็นนายหญิงใหญ่ สำหรับเหมยอวี้เจินแล้วมีค่าอะไรกัน ?”
“ผมก็ไม่แน่ใจ...” ว่านพั่วจวินรีบพูดต่อ : “ผมจะส่งคนไปเข้าใกล้นายหญิงใหญ่คนนี้ ตรวจสอบสถานการณ์อย่างละเอียดของเธอ”
“ผมเองก็ไม่เข้าใจ...” ว่านพั่วจวินกล่าว : “ผมยังค้นเจอภาพสังเกตการณ์ที่ถูกบันทึกของนายหญิงใหญ่ ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานอยู่ที่ห้องอาหารของคนจีนแห่งหนึ่ง อายุมากขนาดนี้ยังไม่ออกจากงาน ดูแล้วสถานการณ์ครอบครัวคงจะลำบากมาก”
เย่เฉินหัวคิ้วขมวดเป็นปม ถามต่อไปว่า : “ลูกชายเธอล่ะ ? ในเมื่อลูกชายของเธอก่อนหน้านี้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของรัฐ ก็ต้องจบจากมหาลัยมีชื่อแน่นอน รายได้คงจะไม่น้อยนักหรอกใช่ไหม ?”
ว่านพั่วจวินอธิบาย : “ลูกชายของเธอค่อนข้างน่าเวทนา ก่อนหน้านี้หลายปีรายได้ไม่เลวจริง ๆ อยู่ที่บริษัทข้ามชาติรับตำแหน่งซูเปอร์ไวเซอร์เทคนิค แต่นับตั้งแต่เขาอายุ 35 ปีนั้น เขาก็ไม่หยุดที่จะหางานเลย โดนไล่ออก จากนั้นหางานอีก รายได้ก็ลดลงเรื่อย ๆ ตอนนี้ว่างงานมาปีหนึ่งแล้ว ชำระการจำนองบ้านก็หยุดหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ธนาคารจะยึดบ้านคืนแล้ว ไม่กี่วันก่อนลูกชายของเขาเพิ่งจะเอารถแวนในบ้านที่วิ่งไปแสนไมล์ขายไป ตอนนี้พูดได้ว่าบ้านเหลือแค่กำแพงล้อมแล้ว ผมเองก็คิดไม่ตกว่านักเรียนชั้นนำที่จบจากมหาวิทยาลัยมีชื่อ ทำไมถึงอยู่ไปวัน ๆ จนน่าเวทนาอย่างนี้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...