ในขณะเดียวกัน
กรมราชทัณฑ์เบดฟอร์ดฮิลส์
หลังจากที่หม่าหลันนวดทั้งตัวของเจ็ดแปดคนเสร็จ ทั้งตัวที่สบายลอยอย่างกับเทวดา
เพียงแค่ก่อนหน้านี้โคลอี้ที่ระรานนั่นก็น่าเวทนาแล้ว
ตามข้อเรียกร้องของหม่าหลัน เธอเริ่มสับเปลี่ยนคลึงเท้าให้ทุกคนในห้องขัง
จนกระทั่งถึงดับตะเกียงในคุก ก็กดได้แค่สี่ห้าคนเท่านั้น
ในตอนที่กำลังจะนอน หม่าหลันก็พูดเสียงเย็นเยียบกับโคลอี้ : “แกกดให้ฉันจนถึงพรุ่งนี้เช้า ถ้ากล้าขี้เกียจ ฉันจะฆ่าแก !”
โคลอี้ ร้องไห้พลางพยักหน้า สะอื้นไห้พูด : “ฉันรู้แล้ว...ฉันจะไม่ขี้เกียจ...”
หม่าหลันพ้นเสียงออกทางจมูก อีกไม่นานก็ชี้ไปที่เตียงชื้น ๆ ของตัวเอง พูดเสียงเย็น : “ทั้งหมดนี่เป็นผลงานชิ้นเอกของแก ต่อไปแกก็นอนที่เตียงนี้ ฉันนอนเตียงแก”
โคลอี้จะกล้าพูดมากที่ไหนกัน รีบพูด : “ได้ค่ะคุณผู้หญิงหม่า ฉันฟังคำสั่งเธอทุกอย่าง...”
หม่าหลันคิดว่าเตียงถูกราดจนเปียก ไม่สบายใจเล็กน้อย ชี้ลูกน้องเมื่อก่อนของโคลอี้สองสามคน พูดอย่างเย็นชา : “พวกเธอสองสามคน วันนี้ตอนดึกราดน้ำลงเตียงของพวกเธอให้ฉันแล้วค่อยนอน ต่อไปทุกกลางคืนก่อนนอนราดน้ำสองกะละมัง จากนั้นนอนติดกันสามวันให้ฉัน !”
พูดจบ เธอก็มองไปที่โคลอี้อีกครั้ง พูดอย่างเย็นยะเยือก : “ส่วนแกเริ่มพรุ่งนี้ นอนเตียงที่เปียกซึมให้ฉัน พวกมันนอนสามวัน แกนอนให้ฉันสิบวัน !”
คนทั้งหลายสั่นสะท้านด้วยความกลัว
ถึงแม่ตอนนี้อากาศจะร้อนขึ้นแล้ว แต่นอนเตียงที่เปียกโชก นั่นทำให้คนไม่สบายได้ไม่ใช่หรือ ?
หม่าหลันหน้าเรียบเฉย พูดอย่างเย็นชา : “ร้องไห้ ? ร้องไห้ฉันเพิ่มเวลานะ ! สิบวันไม่พอก็สิบห้าวัน สิบห้าวันไม่พอก็สามสิบวัน ! ฉันจะดูว่าแกจะร้องไปถึงเมื่อไหร่ !”
โคลอี้ได้ยินแบบนั้น รีบหยุดเสียงร้องไห้ทันที ยื่นมือไปเช็ดน้ำตา พูดอย่างสะอื้นไห้ “ฉะ...ฉันไม่ร้องแล้ว...”
หม่าหลันหัวเราะเหอ ๆ ถามเธอ : “โคลอี้ ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าโดนคนอื่นแกล้งมันรู้สึกยังไงใช่ไหม ?”
เบ้าตาโคลอี้รื้นไปด้วยน้ำตา พยักหน้าอย่างกล้ำกลืนเป็นอย่างมาก : “ฉันรู้แล้ว...”
หม่าหลันยิ้มและพูดว่า : “จำไว้นะ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว !”
คืนนี้ โคลอี้ทำได้แค่ไป ๆ มา ๆ ระหว่างห้องน้ำและเตียงเดี่ยวของทุกคน เธอจำเป็นจะต้องทำตามข้อเรียกร้องของหม่าหลัน นวดกดฝ่าเท้าให้ทุกคนในคุกอย่างน้อยคนละครึ่งชั่วโมง
ไม่ต้องพูดถึงว่าวันนี้ไม่ได้นอน ถึงแม้พรุ่งนี้กลางวัน ก็เกรงว่าก็จะไม่วางแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...