เช้าวันถัดมา
เฟ่ยเข่อซินขับรถส่งเย่เฉินไปสนามบินนิวยอร์กเอง
ได้ยินว่าเย่เฉินจะไปเม็กซิโก เฟ่ยเข่อซินค่อนข้างกังวลใจ
เธออยากจะไปกับเย่เฉินมาก แต่เย่เฉินไม่เห็นด้วย
สำหรับเย่เฉิน บ่อยครั้งที่ไม่มีคนช่วยอยู่ข้าง ๆ ดีกว่ามีคนช่วยอยู่มาก
ในสถานการณ์ที่มีคนช่วย ตัวเองจะต้องคำนำถึงอีกฝ่าย ไม่ราบรื่นเท่ากับตัวคนเดียว
และที่มากกว่านั้น ตัวเองไปเม็กซิโก วางแผนเข้าถ้ำเสือ ถือโอกาสแกล้งเป็นหมูหลอกกินเสือ พาเฟ่ยเข่อซินไปด้วย ก็จะไม่กล้าลงมือมาก
แรกเริ่มเดิมทีเฟ่ยเข่อซินก็ไม่รู้ว่าเย่เฉินไปเม็กซิโกทำไมกันแน่ ได้ยินว่าจะแฝงเป็นเหยื่อปะปนเข้าไปในหลุมพลางของอีกฝ่าย เธอรู้ดี ถ้าตัวเองเข้าไปด้วย นอกจากจะถ่วงแข้งถ่วงขาเย่เฉินแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ด้วยเหตุนี้ เธอทำได้เพียงยกเลิกด้วยความแค้น
รถจอดอยู่ที่ทางเข้าสนามบิน เย่เฉินพูดกับเฟ่ยเข่อซิน : “เธอมีสถานะพิเศษ อย่าลงจากรถ”
เฟ่ยเข่อซินรีบกล่าว : “งั้นคุณเย่คุณจะต้องระวังตัวให้มาก !”
เย่เฉินพยักหน้าเบา ๆ หลังจากที่ลากับเธอก็ผลักประตูลงจากรถ
จากนั้นหยิบกระเป๋าเดินทางไม่ใหญ่นักออกมาจากหลังรถ สาวเท้าก้าวไปในสนามบินไม่หันหลังกลับมามอง
ในกระเป๋าเดินทาง เป็นเสื้อผ้าเครื่องใช้ประจำวันที่ซื้อเมื่อวาน
เย่เฉินก็ไม่รู้ว่าที่เม็กซิโกมีอะไรรอตัวเองอยู่ แต่ครั้งนี้เขาแกล้งทำเป็นคนที่ไม่เตรียมป้องกันอันตรายแม้แต่น้อย และตอนที่จะจากไปไกล จึงนำของใช้ส่วนตัวติดไปเล็กน้อย
หล่างหงจวินก็ลากกระเป๋าเดินทางไปต่อท้ายแถว
เย่เฉินเห็นอย่างนั้น รีบลุกขึ้นทันที ลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองไปอยู่ข้างหลังหล่างหงจวิน
จากนั้น เขาแสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็นและถามหล่างหงจวิน เป็นภาษาจีน: “ขอโทษนะครับเป็นคนหัวเซี่ยหรือเปล่า ?”
“ไม่ใช่ครับ” หล่างหงจวินส่ายหน้า ตอบกลับเย่เฉินอย่างจริงจังมาก : “ผมเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน เปลี่ยนสัญชาติหลายปีแล้ว”
เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนว่าหล่างหงจวินค่อนข้างใส่ใจกับปัญหาสัญชาติ ดังนั้นเขาจึงถามด้วยความประหลาดใจ : “คุณย้ายถิ่นฐานเพื่อทำงานเหรอ ?”
หล่างหงจวินจัดคอเสื้อเชิ้ต พูดอย่างภาคภูมิใจ : “ผมเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนของรัฐ แต่เนื่องจากผลการเรียนที่โดดเด่นตอนนั้น สหรัฐอเมริกาจึงให้โอกาสผมได้รับกรีนการ์ด ผมเลยเลือกมาแลกเปลี่ยนที่อเมริกา”
เย่เฉินพยักหน้า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...