พูดจบเย่เฉินก็ถามด้วยใบหน้าสงสัย: “พี่ชาย ในเมื่อตอนนั้นคุณเป็นนักเรียนนอกที่รัฐบาลส่งไป อย่างนั้นก็ต้องเป็นคนที่มีความสามารถสูงเลยสิ ทำไมถึงยังไปมอสโคว์สถานที่อย่างนี้อีก? เทียบกับอเมริกาแล้วต่างกันราวกับฟ้ากับดินเลย”
หล่างหงจวินพูดด้วยสีหน้าสลดว่า: “ไม่ได้หรอก อายุเยอะแล้ว เมืองอย่างอเมริกา ก่อนถึงอายุ 35 ถึง 40 ปี ถ้ายังไม่มีอิสรภาพทางการเงิน จะมีเปอร์เซ็นต์ถูกนายทุนโละออก ต่อให้มีประสบการณ์การทำงานสมบูรณ์แล้วยังไง เงินเดือนคนหนุ่มสาวได้เงินเดือนหนึ่งในสี่กระทั่งหนึ่งในห้าของคุณ ทั้งยังกล้าทำกล้าสู้ แม้คนเดียวจะสู้คุณไม่ได้ แต่ถ้าสองคนรวมกันยังไงก็ต้องเก่งกาจกว่าคุณอยู่แล้ว? ขนาดคนเขลาเบาปัญญา 3 คนยังต้านทานจูกัดเหลียงคนเดียวได้เลย”
พูดจบ หล่างหงจวินก็ถอนหายใจกล่าวว่า: “คนทำ IT อย่างเรา ๆ มีเทคนิคใหม่ ๆ อยู่ตลอด พนักงานอายุมากอย่างเรา ๆ สู้ความสามารถในการเรียนด้านเทคนิคใหม่ ๆ อย่างเด็กรุ่นใหม่ไม่ได้หรอก ถูกโละออกง่ายมาก”
เย่เฉินพยักหน้า แกล้งถามด้วยความสงสัย: “ในเมื่อพี่ชายทำเกี่ยวกับ IT ไปสถานที่อย่างมอสโคว์กลัวจะยิ่งไม่ความก้าวหน้า?เลยเปลี่ยนอาชีพเหรอ?”
หล่างหงจวินถอนหายใจอีกครั้ง ยกมือขึ้นปัดกล่าวว่า: “เฮ้อ ช่างเถอะ ก็แค่ไปทำมาหากิน ไม่พูดดีกว่า”
เย่เฉินเห็นเขาไม่อยากตอบจึงไม่เซ้าซี้ถามต่อ เวลานี้เที่ยวบินก็เริ่มขึ้นเครื่อง ทั้งสองคนเดินเรียงแถวผ่านช่องประตูเข้าไปในห้องโดยสาร
หล่างหงจวินเลือกที่นั่งตรงหน้าต่างเลขที่ 39A เขาเดินอยู่ข้างหน้าเย่เฉิน หลังจากถึงที่นั่งก็หยุดเดิน นำสัมภาระและกระเป๋าสะพายยัดเข้าในที่วางกระเป๋าแล้วก็เข้าไปนั่งที่ของตัวเอง
ส่วนเย่เฉินทำเป็นเอาบัตรที่นั่งเทียบเลขที่นั่ง ปากก็พึมพำไม่หยุดว่า: “39B อยู่ไหนนะ 39B นี่……”
พูดจบ อยู่ ๆ เขาก็แหงนหน้ามองหล่างหงจวินสักพักแล้วก็ทำเป็นตกใจพูดว่า: “โอ้ พี่ชาย พรหมลิขิตจังเลยนะ!ที่นั่งของผมอยู่ข้างคุณ!”
“งั้นเหรอ?” เห็นได้ชัดว่าหล่างหงจวินก็ตกใจเล็กน้อย
หล่างหงจวินถามด้วยความสงสัยว่า: “กลับไปไม่กลัวเจ้าหนี้มาหาเหรอ?”
เย่เฉินทำมือปัด: “หัวเซี่ยออกจะกว้างใหญ่ แผ่นดินไหนบ้างที่ไม่ฝังคน พอถึงคราวก็หาที่อยู่ที่ปลอดภัยก่อน ไม่แน่อาจจะมีโอกาสกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พอถึงคราวใช้หนี้หมดไม่แน่ยังจะกลับบ้านเกิดด้วยความภูมิฐาน”
พูดจบเย่เฉินก็มองไปยังหล่างหงจวินถามอีกว่า: “จริงสิพี่ชาย คุณไปทำงานอะไรที่มอสโคว์เหรอ มีลู่ทางอะไรแนะนำน้องชายได้บ้าง?”
“ผม?” หล่างหงจวินถอนใจหันมาหัวเราะเอ่ยว่า: “ผมมีลู่ทางที่ไหนกัน แต่ต่อให้มีลู่ทางนิดเดียวผมก็ไม่ถึงกลับต้องทิ้งลูกทิ้งเมียไปมอสโคว์เมืองที่เลวร้ายแบบนั้นหรอก”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...