หนุ่มมอสโคว์คนนั้นมองดูคนทั้งสอง ใบหน้าฉีกยิ้ม จากนั้นก็ตบไปที่เอวนูน ๆ ของเขา หัวเราะแล้วพูดภาษาสเปนออกมาหนึ่งคำ
เจ้าหนุ่มข้าง ๆ ก็แปลให้ฟังว่า: “เขาพูดว่ายินดีต้อนรับพวกคุณสู่มอสโคว์ ในกระเป๋าของเขามี GLOCK 17 อยู่ด้ามหนึ่ง รักษาความปลอดภัยของพวกเราได้”
เย่เฉินยิ้มแล้วพยักหน้า หล่างหงจวินที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรทะแม่ง ๆ จึงรีบบอกว่า: “รบกวนบอกเขาทีว่า ลำบากแล้ว”
เจ้าหนุ่มยิ้มเล็กน้อย ใช้ภาษาสเปนทักทายอีกฝ่ายแล้วก็บอกคนทั้งสองว่า: “พวกนายนั่งแถวหลังเถอะ”
เย่เฉินกับหล่างหงจวินขึ้นรถคนละฝั่งไปนั่งแถวหลัง จากนั้น คนมอสโคว์นั่นก็ขับรถออกจากสนามบิน
บนรถ เจ้าหนุ่มเหลียวหน้าด้านข้างพูดกับเย่เฉินกับหล่างหงจวินว่าหล่างหงจวิน: “ทางที่ดีตอนนี้ให้พวกนายโทรหาทางบ้านไม่ก็ส่งข้อความว่าปลอดภัยดี เพราะโครงสร้างพื้้นฐานทางมอสโคว์ไม่ดีเท่าไหร่ เดี๋ยวพวกเราออกจากตัวเมืองระหว่างทางไปท่าเรือเอนเซนาดาก็จะไม่มีสัญญาณแล้ว”
หล่างหงจวินไม่รู้สึกว่ามีกลลวง จึงรีบเอามือถือตัวเองออกมาโทรหาที่บ้านรายงานตัวว่าปลอดภัย
เจ้าหนุ่มเห็นเย่เฉินไม่โทรศัพย์จึงอดใจถามไม่ได้ว่า: “พี่ชาย ทำไมไม่บอกทางบ้านหน่อยล่ะ?”
เย่เฉินหัวเราะ: “ฉันมามอสโคว์ไม่เห็นมีใครกล้าว่าฉัน คนอย่างฉันถือที่สุดก็คือการติดต่อทางบ้าน พอติดต่อก็เกิดเรื่อง สู้ไม่ติดต่อดีกว่า”
พอเจ้าหนุ่มได้ยินเท่านั้นก็หัวเราะพยักหน้าไม่พูดอะไรอีก
มีการป้องกันก่อนหน้าไว้แล้ว พอสองคนนั้นเห็นว่ามือถือไม่มีสัญญาณก็คงไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
หลังจากรถกระบะออกจากสนามบินก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ พอรถขับไปได้ประมาณสิบกว่ากิโล เจ้าหนุ่มก็ไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงยื่นมือไปที่ใต้ที่นั่งข้างคนขับคลำบางอย่าง เปิดสวิตซ์ที่ซ่อนไว้อยู่ข้างใน
สวิตช์นี้ ก็คือสวิตช์ไฟของตัวตัดสัญญาณ
พอกดสวิตช์ สัญญาณทั้งหมดระยะ 5 เมตรรอบ ๆ รถคันนี้จะถูกตัดหมด ไม่เพียงรับสายโทรออกไม่ได้ ขนาดสัญญาณดาวเทียมก็รับไม่ได้
หล่างหงจวินคุยกับเย่เฉินตลอดทาง ขณะเดียวกันก็ใช้มือถือคุยวีแชทกับภรรยา แต่คุยไปคุยมาอยู่ ๆ สัญญาณบริการก็หายไป เขาแปลกใจเล็กน้อยจึงพูดขึ้นมาว่า: “ให้ตาย เผลอแป๊บเดียวก็ไม่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว……”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...