ฮาร์ดิกหมอชาวอิรเดียพลันพูดออกมาว่า “คุณหม่า ที่จริงแล้ววันมะรืนผมมีการผ่าตัดรออยู่ตั้งสามงานแล้ว ผ่าตัดเสร็จยังต้องเดินทางกลับไปที่อเมริกาอีก ถ้ายังเพิ่มการผัดตัดไตทั้งสองข้างไปด้วยละก็ คงจะต้องอยู่ลากยาวไปถึงตอนกลางคืนของวันมะรืน”
อาหม่าเพียงพูดขึ้นมาด้วยท่าทีสบายใจว่า “ ไม่เป็นไรหรอกคุณหมอฮาร์ดิก นายลำบากแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะเพิ่มค่าผ่าตัดอีกห้าพันดอลล่าห์ให้นายเอง หลังจากที่นายทำการผ่าตัดเสร็จหมดแล้ว ฉันจะให้อะเหลี้ยงรีบไปส่งนายที่สนามบิน”
เมื่อฮาร์ดิกได้ยินแบบนั้น นัยน์ตากลมโตของเขาพลันสั่นระริกไปมาในทันที หลังจากนั้นพลันพยักหน้ากล่าวว่า “ในเมื่อคุณหม่าพูดออกมาแบบนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะทำงานให้หนักขึ้นแล้วกัน”
หล่างหงจวินพอจะเข้าใจข้อตกลงของพวกเขาแล้วในตอนแรกเขาไม่รู้ว่า คนพวกนี้ต้องการจะเอาอะไรจากเขาในวันมะรืนกันแน่ เมื่อได้ยินพวกเขาพูดถึงการปลูกถ่ายไตสองข้างในวันนี้แล้วหากว่าพวกเขาต้องการจะตัดไตทั้งสองข้างของตัวเองไปนั้น เช่นนั้นเขาจะไม่ตายเอาเหรอ?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้วทั่วร่างของหล่างหงจวินพลันหวาดกลัวเสียจนพูดออกมาว่า “ พวกแกกล้าทำเรื่องที่ไร้มโนธรรมแบบนี้ ไม่กลัวถูกจับเหรอ?!”
อะเหลี้ยงแย้มยิ้มพูดออกมาว่า “เรื่องอะไรที่ไร้มโนธรรมกัน ฆ่าแกให้ตายก็ถือเป็นเรื่องมโนธรรมแล้ว? แกรู้หรือเปล่า การตายของแกสามารถช่วยชีวิตให้เพิ่มขึ้นได้อีกสองคน บางทีอาจจะทำให้ผู้อื่นเห็นแสงส่องทางของชีวิตเลยก็ได้ มีคนเคยพูดไว้ว่า การได้ช่วยชีวิตคนเอาไว้หนึ่งคน ได้บุญราวกับสร้างเจดีย์ถึงเจ็ดชั้น พวกฉันฆ่าคนไปหนึ่งคน ช่วยคนเพิ่มอีกสองคน สองลบหนึ่งก็เท่ากับหนึ่ง นี่ไม่ใช่ว่าฉันช่วยคนเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่งเหรอ? นี่มันเป็นกุศลหาที่สุดมิได้ของฉันเลยนี่ !”
ทั่วร่างของหล่างหงจวินพลันสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัวในทันที พร้อมทั้งโพล่งออกมาว่า “พวกแกต้องการจะทำอะไรกับฉันกันแน่?!”
อะเหลี้ยงพลันชำเลืองมองไปยังอาหม่าที่ยืนอยู่ข้างกันนั้น “อาหม่า ฉันบอกกับพวกมันได้ไหม?”
พูดจบ เขาพลันหันหน้าไปพูดกับทางเย่เฉินในทันทีว่า “ไอ๊หยา แกเองก็ดูน่าสนใจเหมือนกันหนิ จะพูดยังไงดีล่ะ? โอ้ใช่แล้ว เรียกว่าทางดีๆ มีให้เดินไม่เดิน นรกที่ไร้ประตูแกกลับกระเสือกกระสนจะเข้ามา แกบอกว่าโชคแกดีไม่ใช่เหรอ แต่ที่จริงก็ไม่ได้เป็นนั่นนี่! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เย่เฉินที่ได้ยินแบบนั้น เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่มองไปทางอะเหลี้ยง พร้อมกับถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “พวกแกคิดจะจัดการกับฉันยังไงกันแน่?”
อะเหลี้ยงพลันมองมาที่เย่เฉินด้วยท่าทีดูถูก พร้อมกับพูดออกมาด้วยความเฉยเมยว่า “แกไม่ต้องรีบร้อนเหรอก ฉันจะสั่งให้คนมาเจาะเลือดให้แกก่อน หลังจากนั้นฉันก็จะโพสต์กรุ๊ปเลือดและข้อมูลของแกลงไปถ้ามีผู้ป่วยคนไหนสามารถแมทกับแกได้ละก็ ฉันก็จะพูดคุยราคากับฝ่ายตรงข้ามอีกที หลังเจรจาต่อรองกันเสร็จแล้ว แกก็แค่รอขึ้นเตียงผ่าตัดก็พอ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...