ฮาร์ดิกหมอชาวอินเดียที่ยืนอยู่ข้างกันพลันรีบร้อนพูดออกมาว่า “บ้าจริง ฉันเกือบลืมไปแล้วว่ายังมีอีกสองคนที่นอนอยู่บนเตีนงผ่าตัด”
พูดจบเขารีบเข้าไปดึงผ้าม่านออก ด้านในเป็นอย่างที่เย่เฉินคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิด ด้านในเป็นห้องผ่าตัดเล็ก ๆ ที่เรียบง่าย ภายในห้องผ่าตัดมีเตียงผ่าตัดอยู่สองเตียง พร้อมกับคนที่นอนอยู่บนนั้น
หมอชาวอินเดียรีบร้อนเข้ามาดูพวกเขาในทันที พลางเปิดปากพูดกับอาหม่าว่า “คุณหม่า อาการของคนไข้เริ่มคงที่ขึ้นมาแล้ว สามารถส่งเข้าไปในห้องพักฟื้นได้เลย”
“ได้” อาหม่าพยักหน้าลงเล็กน้อย พร้อมกับโบกมือไปมา เพื่อเรียกชาวเม็กซิโกคนหนึ่งให้เข้ามาหา จากนั้นก็ให้เขามาดึงเตียงที่มีชายหนุ่มนอนอยู่ออกไป
ในขณะเดียวกันอาหม่าก็มองไปยังอีกคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ข้าง ๆ พลางเอ่ยถามฮาร์ดิกว่า “เด็กคนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง?”
ฮาร์ดิกมองอยู่ครู่หนึ่ง พลางส่ายหน้าไปมา “อาการไม่สู้ดี ร่างกายอ่อนแอเกินไป เกรงว่าคงอยู่ไม่พ้นคืนนี้”
พูดจบ เขาจึงหันไปหาอาหม่าว่า “ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายมีคนต้องการซื้อหรือเปล่า?”
อาหม่าได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ไม่สามารถแมทกับใครได้เลย”
พูดจบ อาหม่าก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก ให้เขาอยู่ที่นี่อีกครู่หนึ่งก่อน กลางดึกฉันจะส่งคนมาจัดการกับเขาเอง”
ฮาร์ดิกพลันเปิดปากพูดออกมาอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่สนใจเขา สำหรับงานวันนี้คงหมดแล้ว ฉันจะได้ขึ้นไปนอน”
อาหม่าพลันพูดกำชับขึ้นมาว่า “อย่าลืมว่า พรุ่งนี้ยังมีการผ่าตัดอีกสองครั้ง อย่านอนตื่นสายเกินไปล่ะ”
ฮาร์ดิกรีบร้อนพยักหน้าออกมา จากนั้นก็เดินหาวจากไป
อะเหลี้ยงพลันตะโกนถามไปด้านหลังว่า “เฮ้ยฮาร์ดิก แกยังไม่ได้เก็บเลือดให้ไอเด็กนี่เลย!”
อะเหลี้ยงยังไม่ทันพูด อาหม่าพลันก้าวเข้ามา พร้อมทั้งขมวดคิ้วลงพูดว่า “ไอหนู ตกลงแกเป็นใครกันแน่?”
เย่เฉินแย้มยิ้มออกมา “ถ้าหากฉันบอกกับพวกแกในตอนนี้ว่า ฉันเป็นคนที่พวกแกไม่ควรมายุ่งด้วยล่ะ แกจะคิดว่าฉันเป็นพวกเสแสร้งหรือเปล่า?”
“ไอ้” อะเหลี้ยงรู้สึกโมโหขั้นมาในทัน พร้อมกับเอ่ยปากด่ากราดออกมาว่า “ไอ้ห่านี่ ใจกล้าไม่เบาเลยนะ! แกเชื่อหรือเปล่าว่า ตอนนี้ฉันสามารถกรีดตัวแกออกมาดูได้ว่า ใจของแกใหญ่ขนาดไหนกันแน่?!”
อาหม่าที่ยืนอยู่ข้างกันพลันเอามือออกมากางเอาไว้ พร้อมกับดึงตัวเขาเอาไปด้านหลัง พลางจ้องมองไปที่เย่เฉิน แล้วเอ่ยถามด้วยท่าทีจริงจังว่า “ไอ้หนู แกเป็นใครมาจากทางไหนกันแน่ รีบบอกพวกเรามาเร็วเข้า ถ้าหากระหว่างพวกเราเกิดอะไรขึ้นมา เรื่องราวภายในวันนี้จะได้กลับร้ายกลายเป็นดีได้ ”
พูดจบ สีหน้าของอาหม่าพลันจ้องมองไปที่เย่เฉินด้วยท่าทีเคร่งขรึม แล้วจึงพูดต่อไปอีกว่า “หากไม่สามารถบอกตัวตนของพวกแกออกมาได้แล้ว ฉันก็มีทางทำให้แกมีชิวิตอยู่ไม่สู้ตายได้ง่าย ๆ ”
เย่เฉินเพียงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัยว่า “วิธีอะไร? พูดออกมาให้ฟังหน่อยสิ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...