สำหรับพวกเขาคนกลุ่มหนึ่งที่มักรวมตัวทำสิ่งไม่ดีนั้น เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองแล้วไม่จำเป็นต้องแคร์คนอื่นถือเป็นความคิดมาตรฐานของพวกเขา
ถึงแม้จะบอกว่าปกติทุกคนนั้นอยู่ในความสัมพันธ์ร่วมงานกัน แต่ถ้าใครเกิดอะไรขึ้น คนอื่นๆ จะไม่เห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อย
ดังนั้น เธอจึงถามด้วยความสงสัยว่า:“พี่หม่าเขาเป็นอะไรไป?ไปก่อเรื่องอะไรกันแน่?!”
อะเหลี้ยงได้ยินเหมยอวี้เจินถามแบบนี้ ก็โมโห อดไม่ได้ที่จะแอบด่าในใจ:“ทุกคนทุกแกทำร้ายหมด ยังจะมีหน้ามาถามอีกไอ้ห่า!ถ้าไม่ใช่แกหลอกแม่ยายของเย่เฉิน วันนี้พวกเราจะถูกสำนักว่านหลงตามมาฆ่าถึงที่ไหม?ถ้าวันนี้พวกเราตายที่นี่ แกก็เป็นตัวการที่ก่อกรรมทำชั่ว!”
แต่ว่า อะเหลี้ยงกล้าที่จะตอบโต้ต่อหน้าทหารของสำนักว่านหลงสองคนได้อย่างไร จึงเสแสร้งกับ ได้แต่พูดอย่างโกรธเคืองว่า:“พูดไปก็ไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวคุณลงไปเจอเขาก็รู้แล้ว……”
เหมยอวี้เจินก็ไม่คิดอะไรมาก เวลานี้ในใจเธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ
เดิมทียังคิดว่า ครั้งนี้ตัวเองทำงานได้ไม่ดี พี่ใหญ่จะต้องสั่งสอนเขาสักทีแน่ คิดไม่ถึงว่าในตอนที่เขาก่อเรื่องนี้ หม่าขุยจะเป็นเกาะป้องกันให้ตัวเอง?ให้เขาไปดึงดูดพลังทำลายล้างของพี่ใหญ่ คาดว่าพอถึงตัวเองที่นี่จะเหลือไม่มากแล้ว
ทันใดนั้น อารมณ์ของเหมยอวี้เจินก็ดีขึ้นเยอะ แล้วจึงเห็นว่าด้านข้างอะเหลี้ยงมีคนเชื้อสายจีนอยู่สองคนที่ไม่คุ้นหน้า
ในเคซี่ฆัวเรซ มีคนเชื้อสายจีนไม่เยอะ คนที่เข้าไปในส่วนสำคัญได้จริงๆ ที่จริงแล้วมีแค่หม่าขุยคนเดียว ส่วนเหมยอวี้เจินและอะเหลี้ยงที่จริงแล้วเป็นคนที่หม่าขุยชุบเลี้ยงและพัฒนามา
ส่วนพวกสวีเจี้ยนสี่ หม่านหยิงเจี๋ย ก็เป็นคนที่เหมยอวี้เจินชุบเลี้ยงและพัฒนามาในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นสมาชิกประสานนอกแล้ว
พูดไป เธอก็มองความหงอยของอะเหลี้ยงออก ยังคิดว่าอะเหลี้ยงจะต้องกังวล เพราะหม่าขุยก่อความวุ่นวาย และถูกพี่ใหญ่สั่งสอน
ยังไงหม่าขุยก็เป็นเกราะป้องกันของอะเหลี้ยงที่นี่ ถ้าหม่าขุยหมดอำนาจจริงๆ จึงพูดปลอบไปว่า:“อะเหลี้ยงคุณไม่ต้องตื่นตระหนกขนาดนั้นหรอก ยังไงพี่หม่าก็ติดตามพี่ใหญ่มาหลายปีแล้ว พี่ใหญ่ไม่ทำให้เขาลำบากใจหรอก”
อะเหลี้ยงมองเหมยอวี้เจิน ยิ้มอย่างเหี่ยวเฉา พูดอย่างไม่จริงใจว่า:“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น……”
เหมยอวี้เจินพยักหน้ายิ้ม คิดอะไรได้ ก็ถามเขาอีกว่า:“ใช่สิอะเหลี้ยงหล่างหงจวินนั่นน่าจะถึงแล้วใช่ไหม?สองวันนี้ฉันไม่กล้าติดต่อกับโลกภายนอกเลย เลยไม่รู้การเคลื่อนไหวของเขา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...