เย่เฉินพูดอย่างเยือกเย็นว่า:“เหมยอวี้เจิน ข้อมูลลูกชายสองคนของคุณผมดูแล้ว ไม่ค่อยฉลาดจริงๆ เรียกได้ว่าโง่ก็ได้ แต่ว่าไม่สำคัญหรอก ผมเห็นพวกเขาสองคนถูกเลี้ยงจนอ้วนท้วม จะต้องมีแรงเยอะแน่ สำนักว่านหลงกำลังสร้างฐานทัพถาวรของตัวเองที่ซีเรีย ขาดคนหุ่นล่ำแข็งแรง สมองธรรมดามาทำงานหนักแบบนี้พอดี พวกเขาเหมาะสมสุดๆ”
เหมยอวี้เจินตกใจจนร้องไห้เสียงดัง อดไม่ได้ที่อยากจะขอความเมตตา แต่เเย่เฉินจ้องเธอด้วยสายตาเฉียบคม พูดอย่างเย็นชาว่า:“เหมยอวี้เจิน ตอนนี้ผมยังคงวางแผนที่จะไว้ชีวิตลูกชายสองคนของคุณอยู่ แต่ถ้าคุณยังพูดเหลวไหลทำให้ผมหงุดหงิดแบบนี้อีก ผมจะเปลี่ยน ถึงตอนนั้นพวกคุณทั้งสามก็เจอกันที่ด้านล่างเถอะ ถ้าพวกเขาตำหนิคุณขึ้นมา คุณอย่าเสียใจล่ะ”
เหมยอวี้เจินได้ยินคำนี้ ในใจก็หวาดกลัวอย่างมาก ไม่กล้าพูดเหลวไหลอีก
ยังไง เธอก็เข้าใจแล้วว่าตายดีกว่าอยู่
ถ้าอนาคตลูกชายสองคนไปซีเรีย ก็ยังดีกว่า ถูกฆ่าทิ้งอย่างเงียบๆในวันหนึ่ง
ดังนั้น เธอจึงยกแขนขึ้นมาตบหน้าตัวเองแรงๆ พูดอย่างตื่นตระหนก:“ฉันผิดเองที่พูดเหลวไหล ฉันผิดเองที่พูดเหลวไหล คุณเย่อย่าถือสาคนต่ำต้อยอย่างฉันเลยนะคะ……”
เย่เฉินไม่มองเธออีก แต่เรียกว่านพั่วจวินไปด้านข้าง กำชับเสียงเบาว่า:“พั่วจวิน ให้ลูกน้องของคุณ ย้ายร่างสมาชิกเคซี่ฆัวเรซพวกนั้นลงมา ไม่ต้องปล่อยไปแม้แต่คนเดียว พวกที่มีชีวิตอยู่ก็เหมือนกัน”
“รับทราบครับ!”ว่านพั่วจวินพยักหน้าทันที จากนั้นถามเย่เฉินเสียงเบา:“ใช่สิคุณเย่ ในห้องขังด้านข้างยังขังคนเชื้อสายจีนอยู่สองสามคนด้วย คนพวกนี้เอาไงดีครับ?”
เย่เฉินพูดอย่างไม่ลังเลว่า:“จะทิ้งไว้ไม่สนใจไม่ได้ คุณไปจัดการเรื่องที่ผมสั่งก่อน คนพวกนี้ผมจัดการเอง”
“ผมจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้!”
จากนั้น ว่านพั่วจวินก็ก้าวเท้าออกไปจากห้องผ่าตัดชั้นใต้ดิน ส่วนเย่เฉิน กลับเดินกลับไป เดินไปยังด้านนอกลูกกรงด้านข้างทางเดิน
เย่เฉินมองเพื่อนร่วมชาติที่ดูกระตือรือร้นเหล่านี้ แล้วพยักหน้าเบาๆ พูดอย่างจริงจังว่า:“พวกคุณไม่ต้องกังวล ผมจะช่วยพวกคุณออกไปอย่างแน่นอน”
พูดไป เย่เฉินก็ชะงักเล็กน้อย แล้วพูดต่อว่า:“แต่มีอีกเรื่องหนึ่ง ผมต้องพูดกับทุกคนให้ชัดเจนก่อน”
พวกเขาพูดอย่างตื่นตระหนกว่า:“คุณพูดมาได้เลย!”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า:“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ในวันนี้ อย่าไปเผยแพร่ให้โลกภายนอกรู้”
คนนั้นโพล่งออกมาว่า:“คุณผู้ชายวางใจได้ หลังจากออกไปแล้ว พวกเราจะไม่พูดแม้แต่คำเดียว!ใครถามก็ไม่พูด!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...