เลือดในมือของคนจำนวนมากไม่ใช่แค่ชีวิตมนุษย์เพียงชีวิตเดียวเท่านั้น แต่ยังมีชีวิตมนุษย์อีกมาก
ถ้าให้พวกเขาตายเพื่อขอโทษกับบาปของพวกเขา ก็ง่ายเกินไปสำหรับพวกเขา
หากมีการกลับชาติมาเกิดจริง ๆ ในอีกไม่กี่ชาติต่อจากนี้ เกรงว่าพวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานกับความทุกข์ยากทั้งหมดในโลกนี้ ถึงจะชำระบาปเสร็จสิ้น
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไร เย่เฉินก็เยาะเย้ยเสียงเย็นและพูดกับว่านพั่วจวินว่า “พั่วจวิน ให้ทุกคนถอนตัวออกไป”
“ครับ!” ว่านพั่วจวินพยักหน้า สั่งให้ทุกคนออกจากห้องผ่าตัดใต้ดิน จากนั้นก็เดินออกไปพร้อมกับเย่เฉิน
หลังจากออกไปแล้ว ทหารของสำนักว่านหลงก็ได้ขับรถทุกคันของสมาชิกฆัวเรซเข้าไปในสนาม เทถังเชื้อเพลิงทีละถังแล้วปล่อยให้น้ำมันไหลเข้าทางประตูห้องผ่าตัดใต้ดิน
ในไม่ช้า เหมยอวี้เจินและคนอื่น ๆ ที่ถูกบีบอัดด้วยซากศพก็เห็นน้ำมันไหลลงบันไดเป็นทางยาว
เหมยอวี้เจินมองน้ำมันเบนซินที่เข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ไฟแช็กในมือของเธอ ถามหม่าขุยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกและดูหดหู่ว่า “เหล่าหม่า แกว่าเราจะจุดเมื่อไหร่ ...”
หม่าขุยทนความเจ็บปวดและกล่าวว่า “อย่าจุดตอนนี้เด็ดขาด เราต้องรอน้ำมันให้เยอะกว่านี้หน่อย พยายามจุดไฟให้ใหญ่ แล้วจะหมดสติไปในทันที หากถูกเผาอย่างช้าๆ ถึงตายคงจะเจ็บมาก...”
อะเหลี้ยงนึกอะไรบางอย่างได้ ทันใดนั้นก็ร้องไห้ออกมาแล้วพูดว่า “อาหม่า... ครั้งก่อนที่คนหลายคนถูกเอาไตออก... พวกเขาถูกเผาจนตายด้วยน้ำมัน... ตอนนั้น... ผมบอกว่าจะฆ่าก่อนแล้วค่อยฝัง คนเม็กซิโกพวกนั้นบอกว่า... บอกว่าขุดหลุมมันเหนื่อยเกินไป เผามันเลยดีกว่า... ดังนั้นพวกเม็กซิโกก็... ก็..”"
เมื่ออะเหลี้ยงกล่าวเช่นนี้ก็อดนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นไม่ได้ อารมณ์ของเขาเพราะความหวาดกลัวเกินไป เขาไม่กล้าพูดถึงสถานการณ์ในตอนนั้นเลย เขาได้แต่ร้องไห้และพูดว่า “อาหม่า...ผมกลัวจริงๆ อาหม่า...”
เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่สวีเจี้ยนสี่อีกครั้งและพูดว่า “เหล่าสวี แกมาจุดดีเถอะ...”
สวีเจี้ยนสี่ตกใจจนสับสนเล็กน้อยและพึมพำว่า “กูไม่กล้า กูไม่กล้า... พวกมึงจุดเถอะ...”
หลังจากนั้นเขาก็ปิดหน้าทันทีพร้อมสะอื้น “ก่อนที่พวกมึงจะจุดบอกกูก่อน เพื่อที่กูจะได้เตรียมใจ ...”
เหมยอวี้เจินจนปัญญาแวะมองไปที่พี่ใหญ่ฆัวเรซอีกครั้ง เห็นว่าฆัวเรซเข่าหักเพียงสองข้างเท่านั้น เธอจึงยื่นไฟแช็กไปตรงหน้าเขาและพูดว่า “พี่ใหญ่ พี่มาจุดเถอะ”
ตอนนี้ฆัวเรซตกใจกลัวมากแล้ว เขาร้องไห้และพูดว่า “ไม่...ไม่...กูทำไม่ได้...กูไม่อยากตาย...พระเจ้า...ได้โปรด... โปรดยกโทษให้ผมสำหรับความผิดของผม ให้ผมได้ตายโดยไม่เจ็บปวด และ...และไปสวรรค์หลังจากตาย อาเมน...”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...