เย่เฉินยิ้มและพูดว่า “พี่ชาย ถ้าพี่ไม่ต้องการเงินเดือน แล้วถ้าภรรยาและลูกของพี่ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาล่ะจะทำยังไง?”
“ไม่เป็นไร...” หล่างหงจวินพูดอย่างหนักแน่น “เป็นคนต้องรู้จักตอบแทนความกตัญญู ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ภรรยา ลูก และพ่อแม่ของผมจะคิดว่าผมหายตัวไปแล้ว พวกเธอจะกังวลเพื่อผมและค้นหาเบาะแสจนกว่าจะพบว่าผมถูกฆ่าตาย ในเวลานั้น พวกเธออาจทราบรายละเอียดการที่ผมถูกฆ่าจากตำรวจและจะต้องเจ็บปวดทรมานและเศร้าโศกแน่นอน...”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ หล่างหงจวินมองเย่เฉินและสะอื้น “เป็นคุณที่ช่วยชีวิตผม ภรรยาลูกและลูก ๆ ของผมถึงไม่ต้องเจ็บปวดเพราะความตายอันน่าสลดใจของผม ในจุดนี้คุณไม่เพียงช่วยผมแต่ยังช่วยพวกเธอด้วย ในกรณีนี้ ผมสามารถมีชีวิตอยู่ได้ เป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับพวกเธอแล้ว สำหรับความยากลำบากในชีวิต ผมเชื่อว่าพวกเธอน่าจะสามารถเอาชนะได้ ก็แค่มีชีวิตลำบากกว่าเดิมเท่านั้นเอง!”
เย่เฉินเห็นสีหน้าของหล่างหงจวินหนักแน่น สายตาแน่วแน่ ในใจรู้สึกซึ้งใจ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เรียกว่านพั่วจวินมาอยู่ข้างๆ และพูดกับเขาว่า “พั่วจวิน คนนี้คือหล่างหงจวิน เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการสื่อสาร ผมเชื่อว่า สำนักว่านหลงต้องการคนที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ ให้เขาติดตามคุณกลับไปตะวันออกกลางนะ”
ว่านพั่วจวินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เยี่ยมมาก! ตอนนี้สำนักว่านหลงกำลังเตรียมที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ในด้านการสื่อสาร และขาดแคลนผู้มีความสามารถดังกล่าวนี้มาช่วยให้เราวางแผนโครงสร้างพื้นฐานและแผนการในอนาคตได้สำเร็จ!”
หล่างหงจวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าคุณเพียงแค่ต้องการที่จะทำถึงการสื่อสารทั่วโลกของสำนักว่านหลงเอง และไม่อยากกลายเป็นผู้ให้บริการการสื่อสาร To-C ความต้องการโดยรวมก็จะลดลงมากและค่าใช้จ่ายของดาวเทียมจะน้อยลง ค่าดาวเทียมก็อยู่ที่ประมาณล้านดอลลาร์ ค่าใช้จ่ายในการปล่อยยิ่งต่ำกว่า ปัจจุบัน Space-X ของ อีลอน มัสก์ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณห้าพันดอลลาร์ต่อกิโลกรัม และดาวเทียมหนึ่งดวงประมาณสองล้านดอลลาร์ หากเป็นการสื่อสารทั่วโลก ถ้าสามารถรับประกันได้ว่ามีดาวเทียมยี่สิบหรือสามสิบดวงก็จะไม่มีความผิดได้อย่างแน่นอน!”
ว่านพั่วจวินไม่รู้เรื่องด้านนี้ อดไม่ได้ที่จะอุทานว่า “ต้องการดาวเทียมจำนวนยี่สิบสามสิบดวงมากอย่างนี้เลยหรือครับ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...