หลังจากพูดจบ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต้องสงสัยว่า “เราตกลงกันเรื่องนี้แล้ว ไม่ต้องบอกผมอีกต่อไป ต่อไปเงินเดือนของพี่จะถูกจ่ายเป็นรายเดือน แต่ค่าธรรมเนียมการชำระ 500,000 ดอลลาร์ ผมจะให้พั่วจวินจ่ายก่อน แบบนี้แล้วคุณจะได้แก้ปัญหาที่บ้านก่อน”
หล่างหงจวินต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดมาถึงปาก เขาไม่สามารถพูดออกมาได้ ตาเขาแดงก่ำอย่างควบคุมไม่ได้
เย่เฉินตบแขนเขาและพูดอย่างจริงจังว่า “พี่ชาย ในเมื่อพี่มีความสามารถนี้ ก็ต้องให้ภรรยา ลูกๆ และแม่ที่แก่ชราของพี่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ให้ 500,000 ดอลลาร์แก่พวกเขาก่อน ให้พวกเขาแก้ปัญหาทั้งหมดที่บ้านในคราวเดียว ให้แม่ของพี่อยู่สบาย ให้ภรรยาตั้งใจในการดูแลครอบครัว และให้ลูกตั้งใจเรียน แบบนี้แล้วพี่จะได้มีสมาธิกับงานโดยไม่ต้องกังวล”
หลังจากพูด เย่เฉินหยุดเล็กน้อยและพูดต่อ “และที่สำคัญกว่านั้น เงินจำนวนนี้ไม่เพียงแต่สามารถแก้ปัญหาของพวกเธอได้เท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเธอรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับการที่พี่ทำงานคนเดียวอยู่ข้างนอก และในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจต่อชีวิตในอนาคตมากขึ้น ทุกคนมีความสุข! ดังนั้นอย่าปฏิเสธอีกต่อไป พี่ตกลงโดยทันทีเถอะครับ แล้วออกเดินทางตรงไปยังตะวันออกกลางในคืนนี้!”
หล่างหงจวินไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป น้ำตาของสุภาพบุรุษวัยสี่สิบปีไหลลงมาเหมือนไข่มุกที่ด้ายขาด
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เช็ดน้ำตาด้วยมือของเขาและพูดอย่างแน่วแน่ว่า “คุณเย่วางใจเถอะครับ ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้ด้วยความสามารถของผมและด้วยความรู้ที่ได้เรียนรู้มาเพื่อตอบแทนความเมตตาของคุณ!”
เย่เฉินพยักหน้าด้วยยิ้มและกล่าวว่า “นี่เทียบเท่ากับการตกลง พี่ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เหลือ”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาพูดกับว่านพั่วจวินว่า “พั่วจวิน คุณจัดการให้พี่ชายไปซีเรียพร้อมกำลังหลัก หลังจากไปถึงซีเรียแล้ว ถ้าพี่ชายต้องการคน คุณก็แก้ปัญหาด้านคน ถ้าต้องการเงิน คุณก็แก้ปัญหาด้านเงิน และถ้าต้องการพื้นที่ คุณก็แก้ปัญหาด้านพื้นที่ สรุปคือต้องให้เขาหายห่วง ในขณะเดียวกันก็ให้เงื่อนไขที่จำเป็นทั้งหมดแก่เขา ต้องสร้างระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมของสำนักว่านหลงหนึ่งชุดในเวลาที่สั้นที่สุด อย่านี้แล้ว ในอนาคตสำนักว่านหลงไม่ต้องกังวลกับปัญหาข้อมูลรั่วไหลอีกต่อไปและเชื่อถือได้100% และจะส่งผลดีต่อสำนักว่านหลงอย่างแน่นอนใน อนาคต!”
“จงชิวฮวา?” เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและถาม “คนๆ นั้นคือคนที่มีความสัมพันกับแม่ยายของผมที่สนามบินนิวยอร์กใช่หรือไม่?”
“ใช่ครับ” ว่านพั่วจวินกล่าว “ชื่อจริงของผู้หญิงคนนั้นคือหวงชิวเฟิน และสถานการณ์ของเธอคล้ายกับเหมยอวี้เจิน”
เย่เฉินพยักหน้าและพูดเสียงเรียบ ๆ “จับตาดูเธอก่อน ผมยังมีบางเรื่องที่ต้องทำเมื่อผมกลับไปนิวยอร์ก ในตอนนี้อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น เมื่อต้องการค่อยจับเธอกลับมา”
“ครับผม” ว่านพั่วจวินพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะให้ลูกน้องคอยจับตาเธอตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมทุกเมื่อครับ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...