เฉินจื๋อข่ายกล่าวเตือนว่า “แต่ในสถานที่อย่างเม็กซิโกนี้ คุณจะต้องระวัง ระวังให้ดี ที่นี่ไม่ใช่ในประเทศ ยิ่งไม่ใช่จินหลิง ในสถานที่เช่นนี้ เด็กอายุสิบกว่าปีข้างถนนจะพกปืนอยู่ในกระเป๋า แค่มีความขัดแย้งกันก็จะล้วงปืนแล้วยิงทันที”
“ไอ้เวร” หงห้าหดคอแล้วโบกมือ “ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ผม หงห้า เป็นคนมีตำแหน่งในจินหลิงอยู่แล้ว ถ้าผมถูกเด็กที่เม็กซิโกยิงตายด้วยปืน งั้นก็น่าอับอายขายหน้ามาก”
เฉินจื๋อข่ายยิ้มและพูดว่า “ทำไม ไม่กินทาโก้แล้วหรอครับ?”
หงห้าพูดหน้าบึ้ง “ทาโก้ ก็เป็นแค่ยาสมุนไพรแป้งข้าวโพดเองนี่ ก็เหมือนกันทุกที่ ผมกลับประเทศเพื่อกินทาโก้หมูหยองรสปลาที่ปรับปรุง”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน รถเก๋งคาดิลแลคที่เย่เฉินนั่งอยู่นั้นได้ขับเข้ามาตรงหน้าแล้ว
เฉินจื๋อข่ายรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตูรถและกล่าวด้วยความเคารพ “สวัสดีครับคุณชาย!”
ขณะพูด เขาเห็นซูรั่วหลีอยู่ในรถ และรีบพูดขึ้นว่า “คุณหนูซูก็อยู่ที่นี่ด้วย!”
ขณะที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็ไม่ลืมที่จะขยิบตาให้หงห้า
หงห้าเป็นคนฉลาดหลักแหลม เขาเดินไปอีกด้านหนึ่งโดยไม่ลังเล เปิดประตูรถอีกด้านหนึ่ง และกล่าวด้วยความเคารพ “สวัสดีอาจารย์เย่ สวัสดีครับคุณหนูซู!”
ซู่รั่วไหลไม่ค่อยคุ้นเคยเล็กน้อย กล่าวอย่างสุภาพว่า “สวัสดีค่ะ คุณหง สวัสดีค่ะคุณเฉิน”
เย่เฉินลงจากรถและพูดกับทั้งสองคนว่า “ลำบากพวกคุณที่มาไกลอย่างนี้ ช่าวงนี้อาจมีธุระที่ต้องทำที่นิวยอร์ก ผมเกรงว่าจะมีคนที่ไว้วางใจได้ไม่พอใช้ ดังนั้นผมเลยโทรเรียกพวกคุณมาที่นี่”
ห้องโดยสารสไตล์เทคโนโลยีนี้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน นอกจากห้องนักบินและพื้นที่ทำงานของลูกทีมแล้ว ห้องโดยสารยังแบ่งออกเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทำงานและพื้นที่พักผ่อนจากด้านหน้าไปด้านหลัง
บริเวณที่นั่งเต็มไปด้วยที่นั่งชั้นหนึ่งขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถรองรับได้สามสิบคน พื้นที่ทำงานมีห้องประชุม ห้องทำงาน และห้องพักผ่อนเป็นห้องชุดคู่
หลังจากที่เย่เฉินบอกทั้งสามแล้ว เขาก็ไปที่ห้องทำงานก่อน สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากนั่งอยู่ในทำงานคือโทรหาเฟ่ยเข่อซินก่อน
หลังจากได้รับสาย เฟ่ยเข่อซินถามอย่างสุภาพว่า “คุณเย่ค่ะ คุณมีคำสั่งอะไรค่ะ?”
เย่เฉินกล่าวว่า “คุณหนูเฟ่ย เดี๋ยวผมจะส่งรายชื่อสมุนไพรให้คุณ คุณอยู่นิวยอร์กรีบเตรียมให้ผม ถ้าคุณสามารถรวบรวมครบทั้งหมดได้ก็ดีที่สุด ถ้ารวบรวมได้ไม่ครบ ยาตัวไหนที่ขาดก็รีบบอกผม เดี๋ยวผมจะสั่งคนจัดส่งไป”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...