นางเข้าใจพ่อของนางดี เขามีนิสัยดื้อ แข็งกระด้างและหยิ่งผยองในตัวเองมากที่สุด
ในญี่ปุ่นไม่มีใครรู้จักเขา และมีคนจำนวนมากที่ยกย่องเอาเขาเป็นแรงบันดาลใจ เพราะเขาเป็นคนที่สร้างตระกูลอิโตะให้กลายเป็นตระกูลอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น อีกอย่างวัยห้าสิบปีเป็นช่วงอายุที่ดีที่สุด เดิมทีควรจะเป็นวัยที่แสดงความทะเยอทะยานเต็มที่ แต่ในช่วงเวลาเช่นนี้กลับสูญเสียขาทั้งสองข้างของตัวเองไปกลายเป็นคนพิการที่ต้องอยู่ติดบ้านและมีคนคอยดูแลตลอดเวลา เวลาที่จะออกจากบ้านก็ต้องนั่งรถเข็น ช่องว่างในจิตใจนี้ของเขาคงยากที่จะเติมเต็มภายในสามถึงห้าปีนี้ได้
นางเลยพูดกับทานากะ โคอิจิว่า “ทานากะซัง พรุ่งนี้ช่วยเชิญบริษัทที่ผลิตโต๊ะปิงปองมาที่บ้านด้วยนะคะ ให้พวกเขาลองช่วยคิดดูว่าพอจะมีวิธีใดหรือไม่ที่จะทำให้โต๊ะนี้ปรับระดับได้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่านพ่อตอนนี้มากที่สุด อย่างเช่นสามารถทำให้มันสูงขึ้นได้หรือไม่ ขาโต๊ะสามารถย้ายเข้าไปด้านในให้มากที่สุดได้หรือไม่ จะได้ไม่กระแทกเข้ากับขาโต๊ะ สรุปแล้วก็คือต้องหาวิธีให้ท่านพ่อไม่ได้รับผลกระทบจากการใช้รถเข็นให้ได้มากที่สุด”
ระหว่างที่กล่าว นางก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้จึงรีบกล่าวเสริมว่า “อ่อจริงสิ ช่วยเชิญบริษัทผลิตรถเข็นไฟฟ้ามาด้วยนะคะ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์พลังงานไฟฟ้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้แล้ว รถเข็นไฟฟ้าก็น่าจะทำได้เช่นกัน อยากให้ใส่เทคโนโลยีเข้าไปให้มากหน่อยเพื่อให้รถเข็นไฟฟ้าปะทะเข้ากับสิ่งรอบตัวน้อยที่สุด และอยากให้ปรับระดับความเร็วการเคลื่อนที่ของรถเข็นได้ด้วย เวลาที่ท่านพ่อเล่นปิงปองคงจะต้องการอะไรแบบนี้”
“ได้ครับ!” ทานากะ โคอิจิตอบออกมาอย่างไม่พิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น “พรุ่งนี้เช้าผมจะจัดกาเรื่องนี้ทันทีครับ”
อิโตะ นานาโกะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วถอนใจเบาๆ “อันที่จริงเย่เฉินซังก็ช่วยจัดการธุระได้หลายเรื่องแล้ว แม้ว่าทานากะซังและท่านพ่อจะกลับไปเป็นอย่างคนปกติไม่ได้แล้ว แต่อย่างน้อยๆ ร่างกายฟื้นฟูดีขึ้นมากแล้ว ที่เหลือก็เหลือเพียงเรื่องปรับตัวให้คุ้นชินเท่านั้น”
“ถูกต้อง” ทานากะ โคอิจิอดไม่ได้ที่จะถอนใจ “ตอนที่ตัดสินใจกระโดดลงมาจากสะพาน ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะมีชีวิตรอด ตอนนั้นคิดแค่ว่าขอแค่เอาชีวิตรอดได้ไม่ว่าสภาพจะย่ำแย่แค่ไหนก็รับได้ แต่พอมาคิดดูตอนนี้ก็ต้องขอบคุณคุณเย่มากๆ นอกจากเรื่องที่เสียขาไปแล้ว เรื่องอื่นๆ นับได้ว่าแทบไม่ต่างอะไรกับเมื่อก่อนเลย แถมสุขภาพตอนนี้ยังดีขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย”
ระหว่างที่พูดสีหน้าของเขาก็เศร้าหมอง “หัวใจของผมถูกรักษาอย่างรวดเร็ว เพียงแต่คุณท่าน…….คุณหนูก็รู้ว่าคุณท่านเป็นคนแข็งแกร่งมาตลอด คงไม่สามารถปรับตัวได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้แน่……”
บนกำแพงมีชุดยูกาตะแบบใหม่แขวนอยู่ นี่คือชุดที่เขาให้ช่างช่วยตัดเอาไว้ให้เมื่อปีที่แล้วสำหรับใช้ในการฉลองวันเกิด
ในตอนนั้นเขาให้ช่างตัดเย็บไว้ทั้งหมดสองชุด ชุดหนึ่งเป็นชุดที่เตรียมเอาไว้สำหรับฉลองวันเกิดห้าสิบปี ส่วนอีกชุดหนึ่งเป็นชุดที่เตรียมไว้สำหรับงานแต่งงานของนานาโกะลูกสาวของเขา
สำหรับผู้ชายที่เคร่งครัดในประเพณีญี่ปุ่นอย่างนางาฮิโกะ อิโตะแล้ว เขารักในชุดยูกาตะมากกว่าคนอังกฤษที่โปรดปราณในชุดสูทเสียอีก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...