เมื่อลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้ว เฟ่ยเข่อซินเป็นฝ่ายเดินไปนำด้านหน้าเอง ระหว่างเดินก็กล่าวกับเย่เฉินว่า “คุณเย่คะ ที่นี่คือศูนย์การรักษาที่คุณปู่เคยให้การสนับสนุนเงินทุนเอาไว้ค่ะ วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อทำการทดลองและศึกษาเทคโนโลยีการรักษาและยาขั้นสูง และตอนนี้ยังมีระบบการรักษามะเร็งที่ทันสมัยที่สุดในวงการ หรือว่าจะเป็นการรักษาเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่นี่ก็มีเช่นกันแถมยังดีที่สุดในโลกนี้ด้วย”
ในตอนนั้นเองเฟ่ยเข่อซินก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้จึงกล่าวว่า “อ่อ จริงสิคะคุณเย่ คุณน่าจะเคยได้ยินชื่อเมโยคลินิคมาบ้างใช่ไหมคะ ที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งเฉพาะทางที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้”
“เคยได้ยินครับ” เย่เฉินพยักหน้า “เมโยคลีนิคมีชื่อเสียงมานานแล้ว คนส่วนมากน่าจะรู้จักกันหมด”
เฟ่ยเข่อซินอมยิ้มแล้วกล่าวต่อไปว่า “สมาชิกของทีมรักษามะเร็งของพวกเราเป็นคนเดียวกันถึง 60% ความเป็นมืออาชีพของพวกเขาก็เหมือนกับการบริการของพวกเราที่นี่ ส่วนเรื่องการทำวิจัยขั้นสูงนั้น พวกเรานำหน้าเมโยคลินิคเสียอีก เพราะเมโยคลินิคยังต้องสนใจเรื่องผลกำไร แต่พวกเราไม่ต้อง”
ระหว่างที่พูดเฟ่ยเข่อซินก็กล่าวอีกว่า “นอกจากนี้ตอนนี้ที่นี่ยังมีศูนย์การปลูกถ่ายอวัยวะที่ทันสมัยที่สุดของอเมริกา ทีมการรักษาโรคมะเร็งที่ดีที่สุด และมีทีมรักษาหลอดเลือดหัวใจและเส้นเลือดในสมองรวมทั้งการอายุวัฒนะด้วย ศูนย์แช่แข็งของพวกเราอยู่ใต้ดินชั้นห้า โดยได้รับการออกแบบตามแบบเมื่อสามร้อยปีก่อน เมื่อก่อนคุณปู่เคยบอกว่า หากวันหนึ่งท่านไม่อยู่แล้วก็ให้เอาเขามาอยู่ที่ศูนย์แช่แข็ง จะได้เป็นการท้าทายอนาคต บางทีอีกสองสามร้อยปีข้างหน้าเทคโนโลยีอาจจะทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งก็ได้”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วถอนใจ “การดูแลศูนย์การรักษา แต่ละปีตระกูลเฟ่ยคงใช้เงินไปไม่น้อยเลย”
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้นก็เดินมาถึงลิฟต์ด้านบน
ตอนนั้นลิฟต์ก็ได้ขึ้นมาถึงพอดี ตอนที่เปิดประตูออกนั้น ก็มีผู้ชายเดินออกมาสามคน หนึ่งในนั้นมองแวบเดียวก็จำเย่เฉินได้ และรีบกล่าวกับเย่เฉินอย่างตื่นเต้นว่า “คุณเย่! พระเจ้า นี่มันคุณเย่จริงๆ ด้วย!”
เย่เฉินขมวดคิ้ว เมื่อเห็นชายที่ทักทายตนตรงหน้าก็นึกออกอย่างประหลาดใจ เพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ก็คือคนที่เขาเคยรู้จักมาก่อน นั่นก็คือผู้รับผิดชอบ FDA เจมส์ สมิธ นั่นเอง!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...