อีกอย่างยาเกิดใหม่เก้าเสวียนได้กลายเป็นยาที่มีชื่อเสียงมากของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับว่ายาเกิดใหม่เก้าเสวียนประสบความสำเร็จไปแล้ว
สมิธได้ยินเย่เฉินกล่าวดังนั้น น้ำตาที่เอ่ออยู่ตรงเบ้าตาก็ล้นออกมา เขาร้องไห้พลางกล่าว “คุณเย่ ผมได้ยินมาว่าบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนทำการรักษาฟรีให้กับครอบครัวยากไร้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่หัวเซี่ยด้วย ผมอยากขอร้องคุณให้เอาชื่อลูกชายผมเป็นหนึ่งในนั้นด้วยได้หรือไม่ จิมมี่น้อยของผมน่าสงสารมาก ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาต้องทุกข์ทรมานกับโรคมะเร็งอีก……”
เย่เฉินกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณพูดเองไม่ใช่หรือว่าบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนรักษาฟรีให้กับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ยากจน เงื่อนไขแรกก็คือครอบครัวยากจน แค่จุดนี้คุณและลูกชายก็ไม่สอดคล้องแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น วัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือจะดูแลแค่ผู้ป่วยหัวเซี่ยเท่านั้น ผู้ป่วยของหัวเซี่ยจำนวนมากยังไม่ได้รับโอกาสนี้เลย ทำไมผมต้องเอาโควต้าที่มีคุณค่านี้ให้คนต่างชาติที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขด้วยล่ะ ดังนั้นต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถช่วยคุณในเรื่องนี้ได้”
สมิธร้องไห้สะอึกสะอื้น “คุณเย่ ถ้าคุณไม่ช่วยเขา เขาคงต้องตายเร็วๆ นี้แน่ คุณจะทนเห็นเด็กอายุสิบสองขวบคนหนึ่งต้องตายเพราะโรคมะเร็งได้หรือ……”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “เมื่อพูดถึงเรื่องความตาย ในแต่ละวันมีคนตายไปเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน และในจำนวนพวกนี้ก็มีเด็กที่อายุไล่เลี่ยกับลูกชายคุณด้วย และบางคนเด็กกว่าเขาด้วยซ้ำไป ดังนั้งพวกเราคงไม่สามารถรักษาทุกคนได้”
“ดังนั้นคุณสมิธ คุณอย่าใช้วิธีการชั้นต่ำอย่างเรื่องศีลธรรมมาผูกมัดเลย มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับเรา!”
“คุณเอาเรื่องศีลธรรมมาผูกมัดผม แล้วทำไมคุณไม่ไปถามบริษัทยาอย่างบริษัทรุ่ยฮุยและโนวาร์ตีสล่ะ ในแต่ละปีมีเด็กต้องตายเพราะโรคเม็ดเลือดขาวตั้งมากมาย ทำไมพวกเขาถึงยังตั้งราคายาเอาไว้สูงขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มอบยาให้กับเด็กทุกคนที่ป่วยเป็นโรคเม็ดเลือดขาวฟรีล่ะ”
เย่เฉินยังคงพูดต่อไป “ดังนั้นเมื่อพูดกลับมาถึงเรื่องของเรา พวกเราทุกคนล้วนโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อย่าใช้ศีลธรรมมาผูกมัดกันเลย เพราะมันต่ำเกินไป”
สีหน้าของสมิธตอนนี้นี้เหลือเพียงความสิ้นหวัง
ตอนนี้เย่เฉินนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงกล่าวว่า “อ่อ จริงสิ ถ้าคุณอยากทำอะไรเพื่อเป็นการหาทางช่วยชีวิตของลูกชายคุณ คุณก็ควรแสดงความจริงใจที่มากพอออกมาก่อน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...