สมิธหลุดปากพูดออกมาทันที “ผมมีมากพอ ผมมีความจริงใจ 100%!”
เย่เฉินกล่าวเรียบๆ “อย่างนั้นผมขอแนะนำคุณให้ลาออกจากงาน แล้วพาลูกคุณไปที่หัวเซี่ย และทำตามความสามารถของคุณเต็มที่ โดยทำองค์กรการกุศลอย่างไม่หวังผลตอบแทน หากคุณตั้งใจจริง บางทีบริษัทยาเก้าเสวียนอาจจะให้โอกาสคุณสักครั้งก็ได้”
ระหว่างที่กล่าว เย่เฉินก็กล่าวเตือนขึ้นมาอีกว่า “แต่คุณก็ต้องจำเอาไว้ด้วยนะว่าที่ผมพูดเรื่องพวกนี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องได้ผลลัพธ์ในสิ่งที่คุณต้องการเสมอไป แต่ในสังคมนี้ ถ้าคุณอยากได้ผลตอบแทนคุณก็ต้องเป็นผู้ให้ก่อน ยิ่งไปกว่านั้นคุณต้องชดเชยให้กับความเย่อหยิ่งของคุณที่ทำกับบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนเอาไว้ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เป็นเพราะผู้จัดการเว่ยต้องการล้างความแค้นด้วยคุณธรรมและให้ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนกับคุณไว้กล่องหนึ่ง ตอนนี้ลูกชายของคุณคงตายเพราะคุณไปแล้ว ดังนั้นหากสุดท้ายผลลัพธ์ทำให้คุณต้องผิดหวัง คุณก็ต้องหาสาเหตุจากตัวของคุณเองก่อน!”
เมื่อได้ยินเย่เฉินกล่าวเช่นนี้ เจมส์ สมิธก็ไม่รู้จะไปอย่างไรต่อดี
เขาเป็นผู้รับผิดชอบ FDA ทั้งองค์กร ในอเมริกาแห่งนี้เขาไม่เพียงอยู่ในสังคมชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังกลุ่มคนระดับแนวหน้าของประเทศด้วย
และทั้งหมดที่เย่เฉินกล่าวออกมานั้น สรุปได้ว่าต้องการให้เขาลาออกจากงานตอนนี้ ทิ้งทุกอย่างที่เขาอุตส่าห์ฟ่าฟันเพื่อให้ได้มันมา สำหรับเขาแล้วการตัดสินใจเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน
เมื่อเย่เฉินเห็นเขาเหม่อลอยจึงกล่าวเรียบๆ ว่า “นี่เป็นความเห็นของผมคนเดียว คุณลองกลับไปคิดทบทวนดูก่อนก็ได้ ผมมีธุระอย่างอื่นต้องจัดการอีก ผมขอตัวก่อน”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็มองไปที่เฟ่ยเข่อซิน แล้วเอ่ยปากว่า “คุณหนูเฟ่ยไปกันเถิด”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้าแล้วทำท่าเชื้อเชิญ และกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณเย่เชิญทางนี้ค่ะ”
ปลัดเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “คุณสมิธ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น หากผมจำไม่ผิด ตอนที่ผมกับคุณเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย คุณเคยบอกผมว่า การได้บริหาร FDA คือความฝันอันสูงสุดของคุณ ตอนนี้คุณทำได้แค่สองปีก็จะลาออกแล้วหรือ?!”
สมิธกล่าวอย่างหนักแน่นอีกครั้ง “ถูกต้อง ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะลาออกจาก FDA และพาจิมมี่ไปที่หัวเซี่ย”
“ไปหัวเซี่ย?” อีกฝ่ายรีบถามต่อ “คุณจะพาจิมมี่ไปที่บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนหรือ”
สมิธลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนใจ “ถูกครึ่งๆ เมื่อครู่นี้ผมได้เจอกับคนของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน แต่เขาไม่มีตัวเลือกใดให้ผมเลยสำหรับช่องทางที่จะได้ยามากขึ้นกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่ผมพอจะทำได้ก็คือพาจิมมี่ไปที่หัวเซี่ยแล้วไปทำองค์กรการกุศล ดูสิว่าผมจะทำให้จิมมี่สำเร็จหรือไม่……”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...