อีกฝ่ายเงียบไปประมาณสิบวินาที จากนั้นจึงกล่าวว่า “อาการของจิมมี่ ผมเคยได้ยินผู้ดูแลเมโยบอกว่า ตอนนี้นอกจากยาเกิดใหม่เก้าเสวียนแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้……”
ระหว่างที่พูด เขาก็ถอนใจไปด้วยพลางกล่าวว่า “คุณสมิธ ผมรู้ว่าสำหรับคุณแล้ว จิมมี่สำคัญกว่าทุกอย่างในชีวิตของคุณ ในเมื่อคุณตัดสินใจแน่แล้ว อย่างนั้นผมก็ไม่พูดให้เสียเวลาแล้วล่ะ คุณกลับไปเขียนหนังสือลาออกเถอะ ผมจะอนุญาตภายในเวลาที่เร็วที่สุด”
“ครับ!” สมิธกล่าวอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณเซเวียร์ ผมจะรีบยื่นหนังสือลาออกให้เร็วที่สุด”
……
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง
เฟ่ยเข่อซินเดินนำเย่เฉินไปลงลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่ง จากนั้นจึงเดินผ่านศูนย์สามมิติชั้นหนึ่งเพื่อเปลี่ยนไปใช้ลิฟต์ที่มุ่งหน้าไปยังศูนย์แช่แข็งที่อยู่ใต้ดินชั้นห้า
เนื่องจากศูนย์แช่แข็งคือสถานที่ที่เฟ่ยเจี้ยนจงสร้างเอาไว้เพื่อเก็บร่างของตัวเอง และออกแบบไว้ใช้ได้ถึงสามร้อยปี ดังนั้นระดับความปลอดภัยของที่นี่จึงไม่ต่างกับเตรียมไว้สำหรับวันสิ้นโลก ที่มีอุปกรณ์ทั้งหมดเอาไว้สำหรับเก็บรักษาร่าง
แม้ว่าศูนย์แช่แข็งจะอยู่ชั้นใต้ดินชั้นห้า แต่เนื่องจากตำแหน่งของมันลงไปลึกในชั้นดินถึงหนึ่งร้อยเมตร ที่นี่จึงมีที่หลบภัยที่เพียบพร้อม หากอเมริกาต้องเผชิญกับการโจมตีจริงๆ ที่นี่ก็จะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยอย่างหายห่วง
ที่ศูนย์แช่แข็งแห่งนี้ ออกแบบตามขนาดให้สามารถแช่แข็งร่างได้ถึงหนึ่งร้อยร่าง ทว่าตอนนี้ทั้งศูนย์แช่แข็งแห่งนี้ นอกจากใช้ในการทำการวิจัยศพแล้ว ก็มีเพียงหลี่ญ่าหลินคนเดียวเท่านั้นที่ถูกแช่แข็งเอาไว้
ระหว่างที่กล่าวเฟ่ยเข่อซินก็เอ่ยว่า “ทว่าตอนนี้เทคโนโลยีในการละลายน้ำแข็งเพิ่งจะดำเนินการได้ไปเพียงครึ่งเดียว ความปลอดภัยในกระบวนการแช่แข็งนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่การละลายน้ำแข็งนั้นมีปัญหาใหญ่อยู่ จนกระทั่งถึงตอนนี้ทั่วทั้งโลกไม่มีใครที่ทำเคสละลายน้ำแข็งได้สำเร็จ……”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วชี้ไปที่ถังแสตนเลสจำนวนมากที่อยู่ตรงหน้า และเอ่ยปากถามว่า “หลี่ญ่าหลินอยู่ในถังไหน”
เฟ่ยเข่อซินเอ่ยปากว่า “อยู่ในถังหมายเลขเจ็ดค่ะ”
“ดี” เย่เฉินถามอีกว่า “ให้คนถ่ายไนโตรเจนเหลวออก และเอาร่างออกมา ถึงเวลาที่ต้องละลายน้ำแข็งเพื่อให้เขากลับบ้านแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...