แต่เย่เฉินกลับมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างของหลี่ญ่าหลิน จึงแอบถอนใจ “ยาก่อใหม่เหมาะสมกับคำว่าก่อใหม่จริงๆ หากแก้วที่ตกลงมาจากที่สูงจนแตกกระจายกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อย หากเอาเศษแก้วที่แตกแต่ละชิ้นเอามาติดเข้าด้วกัน เช่นนั้นคงไม่เรียกว่าก่อใหม่ แต่จะต้องเป็นการทำให้แก้วที่แตกกลับไปสู่สภาพเหมือนอย่างก่อนหน้า โดยไม่มีรอยแตกหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่รอยเดียวต่างหากถึงจะเรียกว่าก่อใหม่!”
“ส่วนที่เสียไปแล้ว มันสามารถซ่อมให้ใหม่ได้ ส่วนที่สูญเสียไปแล้ว มันสามารถทำให้มันงอกออกมาใหม่ได้ ยาชนิดนี้เป็นที่หนึ่งไม่เป็นสอง!”
ในตอนนี้ อวัยวะ แขนขาและเลือดของหลี่ญ่าหลินกลับมาอยู่ในระดับที่แข็งแรงเหมือนอย่างแต่ก่อนแล้ว หลังจากที่เลือดกลับมาจนมีปริมาณเท่าเดิมเหมือนปกติแล้ว หัวใจของเขาก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เริ่มกลับมาหายใจเองได้อีกครั้ง
ส่วนคนอื่นๆ นั้นก็เริ่มเห็นได้ด้วยตาตัวเองแล้วว่าหน้าอกของเขามีการกระเพื่อมขึ้นลง
เฟ่ยเข่อซินรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่าจึงเอ่ยอย่างตกใจสุดขีด “คุณเย่……หลี่…..หลี่ญ่าหลินฟื้นแล้ว?!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวเรียบๆ ว่า “น่าจะฟื้นขึ้นมาแล้วล่ะ”
สิ้นเสียง หลี่ญ่าหลินก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น!
ตอนนั้นหลี่ญ่าหลินถอยหลังไปโดยสัญชาตญาณ หัวใจของเธอเต้นระส่ำ
แม้ว่านางจะพอเดาออกว่าเย่เฉินจะต้องมีหนทางในการช่วยหลี่ญ่าหลินให้ฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน แต่นางก็คิดไม่ถึงว่ารวดเร็วและง่ายดายเช่นนี้ ยาเพียงเม็ดเดียว แต่สามารถทำให้หลี่ญ่าหลินฟื้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
ก่อนหน้านี้เขาอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าติดลบสองร้อยองศาเป็นเวลาหลายวัน อย่าว่าแต่ช่วยชีวิตเขาเลย ลำพังแค่ละลายน้ำแข็งยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่จู่ๆ เขากลับฟื้นขึ้นมาง่ายๆ เช่นนี้?!
และสิ่งที่เขาไม่รู้เลยก็คือ ในระดับความหนาวยะเยือกเช่นนั้น สมองของเขายังคงมีชีวิต แต่เป็นเพราะอยู่ในอุณหภูมิที่หนาวเหน็บทำให้กระบวนการเมตาบอริซึมดำเนินไปอย่างเชื่องช้า
การแช่แข็งก็คือการขยายไทม์ไลน์ของร่างกายเขาให้ยาวนานยิ่งขึ้น
เมื่อร่างกายของมนุษย์อยู่ในสภาวะเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเนื้อก่อนหนึ่ง หากไม่แช่แข็งก็จะเก็บไว้ได้อย่างมากที่สุดแค่สามวันหลังจากนั้นก็จะเน่า แต่หากอยู่ในอุณหภูมิหนาวเย็น ไม่ว่าจะเป็นสามปี สามสิบปีหรือว่าสามร้อยปีก็ไม่มีทางเน่าเปื่อย
และเพราะไทม์ไลน์ที่ยาวนานไม่มีที่สิ้นสุดนี้เอง ทำให้ความทรงจำลางเลือนสับสน
เวลานี้แม้ว่าเขาจะลืมตาแต่เขายังคงรู้สึกว่า ตนเองเหมือนอยู่ในความฝันอันไร้ที่สิ้นสุดนั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...