ในช่วงเวลานั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น “หลี่ญ่าหลิน ตอนนี้คุณมองเห็นผมชัดไหม”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ หลี่ญ่าหลินก็ชะงักไป
เป็นเรื่องที่แปลกมาก เวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน ในความฝันของเขาไม่เคยมีเสียงดังขึ้นเลย
ถึงแม้ว่าเขาจะฝันถึงภรรยาของตัวเอง หรือว่าบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ภาพความฝันพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่ไร้เสียง ราวกับเขากำลังดูหนังใบ้อยู่
ทว่าตอนนี้ราวกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเสียง เสียงที่ดังขึ้นอย่างจริงแท้แน่นอน
ทว่าเสียงนี้ที่ได้ยินเป็นเสียงที่เขารู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย
สิ่งที่น่าแปลกประหลาดไปยิ่งกว่านั้นก็คือ แม้ว่าเสียงจะไม่คุ้นเคย แต่ในความไม่คุ้นเคยนั้น ราวกับมีความคุ้นเคยแฝงอยู่ในนั้นด้วย
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดกับตัวเอง “ฉันจะต้อง……เคยได้ยิน……เสียงนี้ที่ไหนสักแห่ง……”
“แต่……เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้ว……เวลาสั้นๆ……ทำให้เขานึกไม่ออก……”
ทว่าในช่วงเวลานั้นเอง ประสาทสัมผัสของเขาก็ค่อยๆ เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ตอนนี้สิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นเพียงเสียงสว่างขาวซีดอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นถังแสตนเลสทรงสูงที่ดูแล้วมืดหม่นและน่าพิศวง
หลังจากนั้น สายตาของเขาก็เริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกระจกใสในห้องน้ำที่เกิดผ้าบางๆ ขึ้นหนึ่งชั้นที่เกิดจากลมร้อนที่พัดผ่าน
ในตอนนั้นเอง เขาก็ค้นพบว่าตนเองนั้นนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำใบใหญ่ที่
แถมด้านข้างอ่างน้ำนี่เองก็มีคนคนหนึ่งยืนอยู่!
เขาจ้องเขม็งไปที่คนคนนั้น ในตอนนั้นเองทั้งร่างของเขาก็สั่นสะท้าน!
สีหน้าของเย่เฉินแข็งกระด้างก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า “ที่คุ้นเป็นเพราะว่าคุณเคยได้ยินตระกูลอานพูดถึงน่ะสิ งั้นขอแนะนำตัวให้ลึกซึ้งมากขึ้นกว่านี้หน่อย พ่อของผมชื่อเย่ฉางอิง คุณเองก็น่าจะรู้จักแม่ของผมด้วยใช่ไหม แม่เป็นลูกสาวคนโตของตระกูลอานมีชื่อว่าอานเฉิงซี!”
“อะไรนะ?! แกเป็นลูกของเฉิงซีหรอกหรือ เป็น……ไปได้อย่างไร!”
เมื่อได้ยินเย่เฉินแนะนำตัว อาการของหลี่ญ่าหลินเต็มไปด้วยความพรั่นพรึง
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเขาเคยคุยกับอานโฉงชิว
ครั้งนั้นเขาได้คุยกับคุณท่านตระกูลอาน พี่สาวของอานโฉงชิว อานโฉงชิวก็เคยพูดถึงหลานชายคนนั้นที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
เขาบอกว่า ตระกูลเขาตระเวณหาหลานไปแทบจะทั่วทั้งโลก
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการอะไรก็ไม่สามารถตามหาเบาะแสของเขาได้เลย
และไปถึงขั้นที่ว่าคนจำนวนมากต่างคิดว่าเขาคงตายไปแล้ว เพียงแค่หาร่างของเขาไม่เจอก็เท่านั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...