ทว่าตระกูลอานกลับคิดว่า เขาจะต้องยังมีชีวิตอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของโลกใบนี้ เพียงแต่พวกเขายังหาไม่เจอก็เท่านั้น
แต่หลี่ญ่าหลินไม่แม้แต่จะฝันว่าตนเองจะตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ได้ และเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วคนแรกที่พบกลับเป็นลูกชายของอานเฉิงซี
นี่เองทำให้คนที่เกิดมาเป็นตำรวจออย่างหลี่ญ่าหลิน เกิดความสงสัยขึ้นมาเป็นลำดับแรก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงใจเย็นลงแล้วกล่าวแจกแจงว่า “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่า ตอนนี้ฉันต้องตายแล้วถึงจะถูก ตอนนั้นฉันจำได้ว่าตอนที่ลิฟต์เปิดประตูมา มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำเดินออกมาจากในลิฟต์และยิงมาที่ฉัน…… คนสารเลวกลุ่มนั้นป่าเถื่อนมาก แถมยังลงมืออย่างไม่ลังเล ก่อนที่ฉันจะหมดสติไป ฉันจำได้ว่าฉันโดนยิงอย่างน้อยยี่สิบถึงสามสิบนั้น ฉันแม่งคงตายสนิทไปตั้งแต่นัดแรกแล้ว ต่อให้เป็นเทพเซียนกลับชาติมาเกิดก็คงช่วยอะไรฉันไม่ได้หรอก……”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็เบิกตากว้างแล้วกล่าวออกมาว่า “แม่งเอ๊ย นี่ต้องเป็นโลกหลังความตายแน่ๆ!”
เมื่อนึกได้ถึงตอนนี้เขาก็เอ่ยออกมาทันทีว่า “ที่แท้หลังจากที่คนตายไปแล้วมันเป็นอย่างนี้นี่เอง…… อยู่ในสภาวะฝันตลอดเวลา ล่องลอยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด……แล้วหลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ? หรือว่าจะต้องกลับไปเกิดใหม่เข้าสู่วัฏจักรสงสาร?”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาว่าก่อนจะเอ่ยว่า “ผมก็นึกว่าคนเป็นตำรวจอย่างพวกคุณจะเชื่อในวัตถุนิยม ไม่คิดเลยว่านักสืบระดับสูงชื่อดังอย่างคุณจะมีความคิดที่โง่เขลาแบบนี้เหมือนกัน”
ระหว่างที่กล่าวน้ำเสียงของเย่เฉินก็สูงขึ้นเล็กน้อย “หลี่ญ่าหลินคุณฟังให้ดีนะ คุณยังไม่ตาย และผมเป็นคนช่วยคุณ”
หลี่ญ่าหลินมองไปทางเย่เฉินแล้วโบกมือ “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้แน่! เมื่อครู่นี้ฉันบอกไปแล้วไงว่าตอนนั้นฉันโดนยิงตั้งหลายนัด ฉันตายแล้วอย่างแน่นอน ไม่ว่าใครก็ช่วยฉันไม่ได้……แสดงว่านี่จะต้องไม่ใช่ความจริงอย่างแน่นอน! ฉันเป็นตำรวจมาทั้งชีวิต ตรรกนี้ไม่มีทางเป็นไปได้!”
เมื่อเห็นรูป เขาก็ยิ่งสงสัยก่อนจะเอ่ยปากว่า “แม่ง สภาพฉันเละเป็นขี้เลย และตอนนี้นายมาบอกฉันว่าฉันยังไม่ตาย?! นายคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยหรือไง”
เย่เฉินชี้ไปที่ใบหน้าของศพที่นอนตายตาไม่หลับแล้วกล่าวว่า “ดูนี่ คุณลองดูใบหน้าของคุณให้ดี คุณพบอะไรที่ผิดปกติไหม”
หลี่ญ่าหลินมองตาม และเห็นแต่เพียงสภาพเจ็บปวดของตัวเองที่น่าสังเวชใจ จึงพูดโพล่งออกไปว่า “มันจะมีอะไรผิดปกติอีก นายจะถามฉันหรือไงว่าทำไมฉันถึงทำหน้าอาฆาตแบบนั้น”
ไม่รอให้เย่เฉินตอบ หลี่ญ่าหลินก็กล่าวออกไปอย่างหัวเสีย “แน่นอนว่าฉันต้องอาฆาตอยู่แล้ว! ฉันเพิ่งรู้ข่าวว่าลูกสาวของฉันตั้งครรภ์ ฉันกำลังจะกลับไปเพื่อฉลองกับลูกกับเมีย สุดท้ายฉันไม่ได้ก้าวออกไปจากโรงยิมนั่นด้วยซ้ำเพราะถูกฆ่าซะก่อน ถ้าเป็นนาย นายจะไม่อาฆาตเลยรึ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...