เย่เฉินส่ายหน้าพลางหัวเราะแล้วกล่าวว่า “สิ่งที่ผมจะให้คุณดูก็คือ ถึงแม้ว่าร่างของคุณจะถูกยิงจนเละเป็นตะแกรง แต่โชคยังดีที่หัวของคุณไม่โดนลูกกระสุน ตอนนั้นถ้ามีกระสุนแม้แต่ลูกเดียวทะลุเข้าไปในกะโหลกของคุณ หากสมองคุณไหลออกมา แน่นอนว่าคุณได้ตายจริงๆ แน่”
หลี่ญ่าหลินมองเย่เฉินด้วยความสงสัย “หมายความว่ายังไง”
เย่เฉินชี้ไปที่ถังแสตนเลสทรงสูงแล้วยิ้มอย่างไร้ความรู้สึก “คุณลองดูถังแสตนเลสรอบตัวคุณดีๆ ของพวกนี้มีไว้สำหรับแช่แข็งร่างมนุษย์โดยเฉพาะ คุณลองสังเกตที่ถังหมายเลขเจ็ดดีๆ เพราะก่อนหน้าที่คุณจะฟื้นขึ้นมา คุณถูกแช่ไว้ที่ถังใบนั้น”
หลี่ญ่าหลินตกตะลึงกับถังแสตนเลสสูงตระหง่านตรงหน้าจนพูดไม่ออก เขาถามอย่างล่องลอย “แช่แข็ง? หมายความว่ายังไง”
เย่เฉินยิ้ม “ข้อแรก คุณเป็นคนโชคดีที่ตอนโดนโจมตี อีกฝ่ายจะเอาคุณให้ตายสนิท แต่กลับยิงไม่โดนสมองของคุณ ทำให้สมองของคุณยังทำงานอยู่จนถึงตอนนี้”
ระหว่างที่กล่าว เย่เฉินก็ชี้ไปที่เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ด้านหลังเขา และพูดต่อไปว่า “นอกจากนั้นคุณยังต้องขอบคุณคุณหนูเฟ่ย หากเธอไม่ได้พาคุณกลับมาแช่แข็งที่ศูนย์แช่แข็งของตระกูลเฟ่ย ป่านนี้ร่างของคุณคงเน่าสลายไปแล้ว”
หลี่ญ่าหลินเพิ่งจะสังเกตว่าที่แท้แล้วด้านหลังของเย่เฉินมีคนยืนอยู่อีกสองสามคน และหนึ่งในนั้นมีเฟ่ยเข่อซินแห่งตระกูลเฟ่ยอยู่ด้วย
“ฮู้วว……” หลี่ญ่าหลินพ่นลมหายใจเย็นๆ ออกมาแล้วอ้าปากค้างมองไปที่เย่เฉินก่อนจะถามว่า “แต่นี่ก็คงไม่เพียงพอที่จะทำให้ฉันฟื้นขึ้นมาหรอกมั้ง ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว บาดแผลของฉันไม่มีทางรักษาได้ และยิ่งไปกว่านั้น ในทางวิทยาศาสตร์ ฉันไม่เคยได้ยินว่าหลังจากที่เอาคนไปแช่แข็งแล้วเมื่อทำละลายเสร็จแล้วคนจะฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนมากจะแช่ไว้ก่อน ส่วนจะทำละลายอย่างไรนั้นก็ค่อยว่ากันอีกที……”
หงห้าบ่นพึมพำว่า “อาจารย์เย่……เรื่องนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นผม ผมก็คงไม่ต่างอะไรกับเขา……เขาก็พูดมีเหตุผลดีฟังดูแล้วฉลาดกว่าผมเสียอีก……”
ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้ฟัง ในใจก็ยังรู้สึกเช่นกันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจได้
ขนาดเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ยังไม่อยากจะยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าตัว
เย่เฉินหันไปมองทุกคนที่มีสีหน้าตกตะลึง และหันกลับมาอย่างเหลืออด และมองไปที่หลี่ญ่าหลินพลางกล่าวเรียบๆ ว่า “หลี่ญ่าหลิน หากคุณอยากคุยเรื่องวิทยาศาสตร์ อย่างนั้นพวกเราก็มาคุยกันจากมุมมองวิทยาศาสตร์ก็แล้วกัน คุณคิดว่าสมองของคนเราหากไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงจะมีชีวิตอยู่ไปได้นานเท่าไหร่”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...