หลี่ญ่าหลินตอบออกไปทันทีอย่างไม่ต้องคิด “ห้านาที! อย่างมากที่สุดคือห้านาที! ฉันทำงานเป็นนักสืบมาตั้งนานหลายปี ก็พอมีความรู้เรื่องการแพทย์อยู่บ้าง เมื่อสมองของคนเราขาดอากาศเกินห้านาที โดยปกติแล้วจะทำให้เกิดผลเสียหายหนักแก่สมอง หากเกินห้านาทีจะทำให้เกิดอาการสมองตาย ต่อให้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ สามารถกู้การเต้นของหัวใจและระบบการหายใจได้ แต่หลังจากที่สมองตายแล้ว จะไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกและกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราในที่สุด”
เย่เฉินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “อย่างนั้นคุณลองทบทวนดูว่า ตอนนั้นที่คุณเจอผู้ร้ายกลุ่มนั้น คุณก็โดนยิงและสลบไป แม้ว่าตอนนั้นผมจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว แต่กว่าผมจะจัดการผู้ร้ายกลุ่มนั้นได้ ผมก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามนาที ดังนั้นช่วงนาทีชีวิตของคุณก็ได้ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”
“ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้ผมมีตู้เย็นอยู่แถวนั้น สามารถเอาคุณยัดเข้าไปในตู้เย็นได้ กว่าจะทำให้อุณหภูมิในสมองของคุณลดจาก 30 องศาเซลเซียสไปสู่อุณหภูมิติดลบได้ก็ต้องใช้เวลามากพอสมควรกว่าสมองของคุณจะแช่แข็งได้ อย่าว่าแต่ห้านาทีเลย แม้แต่สิบห้านาทีก็ยังไม่ทัน”
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงระยะห่างของศูนย์แช่แข็งกับเขตนิวยอร์กที่ห่างกันถึงหนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร ต่อให้นั่งเฮลิคอปเตอร์ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง”
“ดังนั้นแม้ในตอนนั้นจะสามารถนำตัวคุณไปแช่แข็งได้ทันที คุณยังไม่ทันจะมาถึงที่นี่ สมองของคุณก็คงตายไปก่อนแล้ว และคุณจะยังคงมีความทรงจำเหมือนอย่างตอนนี้ได้อย่างไร”
คำพูดของเย่เฉินทำให้หลี่ญ่าหลินตกอยู่ในภวังค์
เขาค้นพบว่า สมมติฐานของเขาก่อนหน้านี้ปรากฏข้อขัดแย้งกันขึ้นในตอนนี้
อย่างแรก หากทั้งหมดที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นความจริง คำถามคือทำอย่างไรถึงช่วยชีวิตตนที่โดนยิงพรุนจนเป็นตะแกรงให้รอดชีวิตกลับมาได้
ข้อสอง หากตอนนี้ทุกอย่างเป็นแค่ห้วงความทรงจำของเขา เช่นนั้นก็ยากที่จะอธิบายได้ว่า สมองของตนจะยังคงสภาพดังเดิมได้อย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น
เพราะหลังจากที่ร่างกายไม่สามารถผลิตโลหิตได้แล้ว สมองจะยังคงมีเวลาเหลืออีกแค่ห้านาทีเท่านั้น ตามสถานการณ์เช่นนี้ ตนคงไม่สามารถรักษาความทรงจำเอาไว้ได้ ในเมื่อไม่สามารถรักษาความทรงจำเอาไว้ได้ และตอนนี้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เย่เฉินยังกล่าวต่อไปว่า “คุณลองเช็คร่างกายของคุณดูสิ ลองดูว่ายังเหลือตรงไหนไหมที่บาดแผลอยู่”
หลี่ญ่าหลินแกะชุดกันความเย็นที่ห่อหุ้มร่างกายของตนเองออกแล้วก้มลงมอง จึงพบว่าบริเวณอกถึงหน้าท้องของเขาไม่มีร่องรอยใดๆ ทั้งสิ้น”
เขาจึงถามออกทันที “ฉันโดนยิงพรุนขนาดนั้น ทำไมถึงไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่เลยสักรอยล่ะ”
“ใช่” เย่เฉินกล่าวเรียบ “ผมบอกแล้วไง ว่านี่คือผลงานของยาก่อใหม่”
“ยาก่อใหม่……” หลี่ญ่าหลินไม่เคยให้ค่าของลึกลับอะไรแบบนี้เลย แต่ทันใดทันเองสมองของเขาก็นึกบทสนทนาของเขากับอานโฉงชิวขึ้นมาได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...