อาการหัวเสียของคุณท่านทำให้สามพี่น้องตระกูลอานมีสีหน้าชะงักงัน
แม้ว่าทุกคนจะพอเดาบทสรุปได้อยู่แล้ว แต่ตอนที่คุณท่านพูดออกมา ทำให้ทุกคนเกิดความรู้สึกหนาวสันหลัง
สีหน้าของอานข่ายเฟิงสับสนพลางกล่าวว่า “ผมไม่เข้าใจ……คนพวกนี้มีความแค้นอะไรกับพวกเรากันแน่ ความแค้นอะไรที่ทำให้พวกเขาจับตาดูเราอยู่ตลอดยี่สิบปี”
อานจาวหนานกล่าวอย่างข้องใจเช่นกัน “การได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติของตระกูลอานก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมอะไรมา หลายปีที่ผ่านมานี้ ทรัพย์สินของพวกเราส่วนใหญ่ก็ได้มาจากนักลงทุนใจดีในตอนนั้น โดยเฉพาะพี่สาวของฉันที่คอยสนับสนุนซิลิคอนแวลลียในสัดส่วนครึ่งหนึ่ง แล้วใครกันที่มีความเคียดแค้นกับพวกเราอย่างลึกซึ้งขนาดนี้”
อานโฉงชิวกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “บางทีพวกมันอาจจะอยากได้อะไรบางอย่างจากพวกเราก็ได้”
อานจาวหนานถามกลับว่า “พี่ใหญ่ ความหมายของพี่คือ พวกมันอยากได้เงินของพวกเรางั้นหรือ”
“ฉันเองก็ตอบไม่ได้” อานโฉงชิวกล่าว “ฉันรู้สึกแค่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งวางแผนมาแล้วเป็นเวลานาน น่าจะไม่ใช่เพราะเหตุผลเรื่องการแก้แค้นเท่านั้น”
คุณท่านอานฉี่ซานขมวดคิ้ว “ถ้าหากอยากได้เงินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฆ่าพวกเราทั้งตระกูลสักหน่อย ช่วงนี้ทรัพย์สินส่วนมากก็มีเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น เพราะทั้งหมดก็อยู่ในบัญชีธนาคาร บัญชียืนยันตัวตนรวมทั้งตัวเลข รวมทั้งอีกจำนวนมากที่อยู่ในทรัสต์ อีกอย่างเงินทุกบาททุกสตางค์ก็ถูกบันทึกลงในบัญชีหมดแล้ว ต่อให้ฆ่าพวกเราจนหมด ทรัพย์สินของพวกเราก็ไม่มีทางตกไปอยู่ในมือของพวกมันได้”
อานโฉงชิวพยักหน้า “นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ฉันไม่เข้าใจ……”
สี่คนพ่อลูกตกอยู่ในความเงียบงัน
ในตอนนั้นเอง ลูกสาวคนเล็กอานโยวโยวก็เคาะประตูแล้วรายงานอยู่จากด้านนอก “พ่อคะ คุณหนูเฟ่ยโทรมาบอกว่าอีกสักครู่จะมาเยี่ยมค่ะ”
“คุณหนูเฟ่ย……” คุณท่านขมวดคิ้วก่อนจะถามไปโดยสัญชาตญาณ “คุณหนูเฟ่ยคนไหน”
จากนั้นจึงหันไปพูดกับอานโฉงชิวว่า “โฉงชิว แกไปรับกับฉันด้วย ส่วนข่ายเฟิงไปรวบรวมคนอื่นๆ ไปรอที่ห้องประชุม คุณหนูเฟ่ยก็ช่วยพวกเราเอาไว้มาก เมื่อถึงเวลาที่ต้องต้อนรับก็ต้องทำอย่างเต็มที่”
อานข่ายเฟิงพยักหน้าแล้วตอบว่า “ได้ครับพ่อ ผมจะไปจัดการให้”
อานข่ายเฟิงไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงหันไปคุยกับอานโยวโยวว่า “โยวโยวช่วยไปแจ้งการ์ดเอาไว้หน่อย เมื่อถึงเวลา ก็ตรวจสอบตามหลักความปลอดภัยเหมือนเดิม แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาพิเศษก็ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วย”
คุณท่านรีบกล่าวว่า “ไม่ต้อง! คุณหนูเฟ่ยช่วยเราไว้ตั้งมากมาย ไม่มีทางที่จะทำไม่ดีกับพวกเรา เธออุตส่าห์มาเยี่ยม หากพวกเราทำการตรวจสอบความปลอดภัย นั่นก็เท่ากับว่าพวกเราไม่เชื่อใจเธอ”
อานโฉงชิวเห็นท่าทางเด็ดขาดของพ่อก็ได้แต่พยักหน้า ทว่าเขายังหันไปสั่งอานโยวโยวว่า “โยวโยว พวกเธอรออยู่ด้านในก็ต้องระวังตัวหน่อย หากเกิดเรื่องอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาก็ให้ปิดประตูทางเข้าทันที”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...