เฟ่ยเข่อซินเดินล่วงหน้าลงมาก่อน ส่วนหลี่ญ่าหลินนั้นถึงจะเดินตามลงมา และในตอนนี้เองอานฉี่ซานก็เดินลงมาโดยมีอานโฉงชิวประคองมาด้านหน้า
เนื่องจากอานฉีซานเป็นโรคอัลซัลเมอร์ ดังนั้นความทรงจำของเขาที่มีต่อเฟ่ยเข่อซินไม่ต่างอะไรการฟังนิทานที่ได้ลูกหลานของเขาเล่าให้ฟังอีกที
แต่เขาเองก็รู้ดีว่าในช่วงเวลาที่ตระกูลอานตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เฟ่ยเขอซินได้ช่วยเอาไว้ไม่น้อย ด้วยนิสัยของเขาที่ต้องตอบแทนผู้มีพระคุณ เขาจึงรู้สึกซาบซึ้งในตัวเฟ่ยเข่อซินเป็นพิเศษ
และเนื่องจากเมื่อครู่นี้เขาได้ดูรูปเฟ่ยเขอซินเอาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นตอนที่เฟ่ยเข่อซินเดินลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ อานฉี่ชานจึงเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาก่อนแล้วกล่าวเสียงดังว่า “สวัสดีคุณหนูเฟ่ย พวกเราเจอกันอีกแล้ว!”
เฟ่ยเข่อซินไม่คิดว่าคุณท่านจะยังจำตนเองได้จึงรีบกล่าวอย่างนอบน้อม “คุณท่านอาน ช่วงนี้สบายดีไหมคะ”
คุณท่านพยักหน้าแล้วกล่าวกับเฟ่ยเข่อซินว่า “ด้วยบุญคุณของคุณหนูเฟ่ย ทำให้ช่วงนี้เรายังสบายดีอยู่”
เฟ่ยเข่อซินรีบกล่าวว่า “คุณท่านอาน ท่านอย่าพูดแบบนี้เลย หนูเป็นเด็กจะรับเอาไว้ได้อย่างไร”
อานโฉงชิวที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าแล้วกล่าวกับคุณหนูเฟ่ยอย่างนอบน้อม “สวัสดีครับคุณหนูเฟ่ย!”
เฟ่ยเข่อซินตอบกลับอย่างนอบน้อมเช่นกัน “สวัสดีค่ะคุณอาน!”
อานโฉงชิวถามอย่างใส่ใจ “คุณหนูเฟ่ย ผมมีเรื่องอยากสอบถาม หลี่ญ่าหลินพี่ชายของผม ตอนนี้ร่างของเขาถูกเอาไปฝังไว้ที่ไหนแล้ว หากสะดวกรบกวนทิ้งที่อยู่ไว้ให้ผมได้หรือไม่ ผมอยากไปทำความเคารพเขา”
เฟ่ยเข่อซินยังไม่ทันจะพูด หลี่ญ่าหลินที่ใส่แมสและแว่นตาดำก็กล่าวออกมาแทนว่า “อานโฉงชิว! พี่หลี่ของเจ้ายังไม่ตายสักหน่อย”
เมื่อคำพูดนี้ของหลี่ญ่าหลินโพล่งออกไป อานโฉงชิวและอานฉีชานต่างตกใจจนตาเบิกกว้าง
ทั้งสองจำได้ว่านี่คือเสียงของหลี่ญ่าหลิน
หลี่ญ่าหลินพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างยินดีและนอบน้อม “ลุงอาน ผมเอง!”
เมื่ออานโฉงชิวได้สติกลับมา ก็เดินออกไปแล้วเอามือตบหน้าหลี่ญ่าหลิน และเขย่าหัวไหล่ของเขา และกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อและตื่นเต้น “ญ่าหลิน……มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่! สมองคนฉันทำงานไม่ทันแล้ว!”
หลี่ญ่าหลินถอนใจยาวแล้วกล่าวว่า “เรื่องนี้ซับซ้อนมาก ต้องพูดกันยาว……”
อานฉี่ชานเดินเข้ามาหาด้วยความปลื้มใจ แล้วโอบอานโฉงชิวเอาไว้แล้วรีบกล่าวว่า “ญ่าหลิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้นายก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว คนแก่อย่างฉันรู้สึกปลื้มใจมาก”
อานโฉงชิวเองก็ตื้นตันมาเช่นกันจึงกอดหลี่ญ่าหลินเอาไว้แน่นแล้วสะอึกสะอื้นกล่าวว่า “ญ่าหลิน ดีจังที่นายยังมีชีวิตอยู่……ฉันและครอบครัวดีใจมากจริง……”
หลี่ญ่าหลินเองก็ตาแดงก่ำขึ้นมาเช่นกันก่อนจะทอดถอนใจกล่าวว่า “โฉงชิว ตอนนั้นที่ประตูลิฟต์เปิดออกมา กระสุนจำนวนนับไม่ถ้วนทะลุผ่านตัวฉันไป ตอนนั้นฉันก็คิดว่าตัวเองต้องตายแน่แล้ว ในหัวของฉันตอนนั้นเป็นห่วงก็แค่เมียกับลูกและก็เป็นห่วงครอบครัวของพวกนายด้วย ยังคิกอยู่เลยว่าพวกนายก็คงต้องเจอเรื่องแบบนี้เช่นกัน แต่พอได้ยินว่าพวกนายยังมีชีวิตอยู่ ฉันเองก็ดีใจมาก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...