เย่เฉินได้ยินเสียงที่ค่อนข้างเบาของเธอ ไม่ได้พูดอะไร ได้เพียงยกมือขึ้นมาแล้วลูบไปที่หลังของเธอสองสามที
ทั้งสองคนไม่ได้พูดคำพูดอะไรต่อกันมากมาย ราวกับว่าได้นัดหมายกันไว้แล้วก็ไม่ปาน ทุกอย่างจบสิ้นลงที่การไม่พูดอะไรเลย
ซูรั่วหลีเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตาของตน ในขณะที่ในใจก็อิจฉาและก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างทอดถอนใจออกมา: “คุณเย่และคุณหนูนานาโกะช่างเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมาจริงๆ ข้างกายของคุณเย่มีผู้หญิงมากมายที่ยอมมอบใจให้กับเขา แต่ไม่มีคนไหนเลยที่สามารถทำได้อย่างนานาโกะเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าช่างคู่ควรในทุกๆ ด้านกับเย่เฉิน ช่างทำให้คนอิจฉาเสียจริงเชียว......”
เอมิ อีโตะที่เป็นห่วงพี่ชาย ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะโอบกอดนางาฮิโกะ อิโตะไว้แน่น น้ำตาไหลไปพลาง แล้วกล่าวด้วยเสียงสะอื้นไปพลาง: “โอนิจัง......หลังจากที่พี่เกิดเรื่อง ทุกวันฉันเฝ้ารอคอยให้พี่ฮึดสู้ขึ้นมาให้ได้ บัดนี้ในที่สุดฉันก็สมปรารถนาแล้ว ขอให้พี่วันหลังอย่าได้จมปลักกับสภาพที่หมดอาลัยตายอยากแบบนั้นเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย ขอร้องล่ะ!”
นางาฮิโกะ อิโตะรู้ซึ้งดีต่อความรักและห่วงใยที่น้องสาวมีต่อตน จึงกล่าวลากเสียงยาวออกมาว่า: “เอมิน้องวางใจได้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโอนิจังจะไม่โทษตัวเองเด็ดขาดอย่างแน่นอนไม่ว่าฟ้าจะถล่มดินจะทลายลงมาก็ตาม! พี่จะฮึดสู้ขึ้นมาให้ได้อย่างแน่นอน!”
ในขณะนี้ประตูห้องอาบน้ำอีกห้องหนึ่งก็เปิดออก ทานากะ โคอิจิที่สวมชุดกีฬาเช่นเดียวกันเดินออกมาอย่างสั่นเทาจากด้านใน
เมื่อเขาเห็นนางาฮิโกะ อิโตะ จู่ๆ เขาก็น้ำตาไหลรินออกมาราวกับสายน้ำเลย กล่าวด้วยเสียงสะอื้นที่ตื่นเต้นและแฝงไว้ด้วยความแหบแห้งหลายเท่าอยู่ในนั้น: “ท่าน......ท่าน......ท่านก็ฟื้นฟูแล้วเช่นกันเหรอ!”
นางาฮิโกะ อิโตะมองดูทานากะ โคอิจิที่เดินออกมาทางตนเองและก็ลุกขึ้นเช่นกัน น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้อีกครั้งหนึ่ง
เขารีบยื่นมือออกไปทางทานากะ โคอิจิ ในขณะเดียวกันก็ก้าวขาออกไปเดินไปทางเขา
พอทานากะ โคอิจิเห็นเช่นนี้ก็ยิ่งกางมือทั้งสองกางออกแล้วรีบวิ่งเข้าไปรับในทันที
ทั้งสองคนรีบรับคำออกมาอย่างต่างกายแต่พร้อมเพรียงกัน
ในตอนนี้เย่เฉินก็มองดูเวลาครู่หนึ่ง ห่างจากเวลางานเลี้ยงอาหารค่ำที่กำหนดไว้ประมาณเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง ดังนั้นเขาก็กล่าวกับคนทั้งสองว่า: “พวกคุณทั้งสองคนเพิ่งจะฟื้นฟูโดยไม่ง่ายเลย แน่นอนว่าต้องอยากจะออกไปเดินดูรอบๆ อย่างใจจดใจจ่อแล้วแน่นอนใช่ไหมล่ะ?”
ทั้งสองคนสบตากันครู่หนึ่ง เวลาชั่วครู่ก็ไม่กล้ารับคำ
อันที่จริงแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็อยากที่จะออกไปวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ด้วยสิ่งนี้ก็เลยแสดงความรู้สึกตื่นเต้นที่อยู่ในใจออกมา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...