เย่เฉินถามเธอว่า: “ทำไมทั้งหมดต้องเป็นสถานที่ที่ญี่ปุ่นด้วย? ดอกซากุระ ริมฝั่งทะเลและใบไม้แดง หัวเซี่ยก็มีเช่นกันนะ อีกอย่างเพียงแค่เลือกถูกที่ถูกเวลา ไม่ด้อยไปกว่าทิวทัศน์ที่ญี่ปุ่นแน่นอน”
“ฉันรู้......” อิโตะ นานาโกะกล่าวอย่างจริงจังว่า: “เนื่องจากที่ฉันอยากจะไปสถานที่พวกนั้นไม่ใช่คิดไปเองว่าดอกซากุระ ริมฝั่งทะเล ใบไม้แดงทั้งหมดนี้มีเพียงที่ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดหรอก......เพียงแต่ว่าหิมะตกหนักในเกียวโต ดอกซากุระในฮิโรซากิ ชายฝั่งทะเลโชนัน และก็ยังมีใบไม้แดงในฮอกไกโดด้วย ทั้งหมดนี้ต่างมีความทรงจำที่ประทับอย่างลึกซึ้งแก่ฉันมาก เมื่อตอนที่ฉันไปเยือนในสถานที่พวกนั้นตามฤดูกาลที่เหมาะสม ชื่นชมวิวทิวทัศน์พวกนั้นในใจฉันก็เคยอธิษฐานไว้ หวังว่าในอนาคตจะสามารถกลับไปยังทิวทัศน์พวกนั้นด้วยกันกับคนที่ฉันรักอีกครั้งหนึ่ง......นี่ก็เป็นเหมือนกับความปรารถนาและความยึดติดเล็กๆ อันหนึ่งที่อยู่ในใจ......”
ในขณะที่พูดอยู่นั้นอิโตะ นานาโกะก็กล่าวออกมาอย่างรีบร้อนว่า: “แต่ว่าหากเย่เฉินซังอยากจะพาฉันชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามเหล่านี้ในหัวเซี่ย ฉันก๋ไม่ขัดข้องใดๆ นะ!”
ผู้หญิงที่สารภาพต่อหน้าเย่เฉินมาก่อนมีเยอะแยะมากมาย แต่การสารภาพของอิโตะ นานาโกะกลับทำให้เย่เฉินมีความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันอย่างหนึ่งขึ้นมา
การสารภาพของคนอื่นๆ ทำให้เย่เฉินแอบปฏิเสธอยู่ในความรู้สึกลึกๆ หรือไม่ก็อยากจะเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง แต่การสารภาพของอิโตะ นานาโกะกลับมักจะทำให้ส่วนลึกที่อยู่ในใจของเขาอดที่จะตกปากรับคำออกมาไม่ได้
ดังนั้นเมื่ออิโตะ นานาโกะกล่าวขึ้นมาว่าตอนที่เธอเคยอธิษฐานไว้หวังว่าจะสามารถหวนกลับไปที่ทิวทัศน์พวกนั้นอีกครั้งกับคนที่รักด้วยกัน เย่เฉินไม่อาจหาซึ่งเหตุผลใดๆ ที่จะมาปฏิเสธได้เลย
ดังนั้นเขากล่าวอย่างมั่นใจว่า: “ไม่ต้องรีบร้อน ในเมื่อในใจของเธอได้คิดเอาไว้แล้วงั้นก็ทำตามสิ่งที่เธอคิดไว้เถอะ”
อิโตะ นานาโกะได้ฟังคำตอบของเย่เฉินก็เบอกบานใจอย่างเหลือล้น รอบขอบตามีความเปียกชื้นอยู่บ้างเล็กน้อย
เธอใช้กอดแขนของเย่เฉินไปไว้แน่นแล้วกล่าวอีกว่า: “ใช่แล้วล่ะเย่เฉินซัง เมื่อครู่ฉันบอกว่าฉันมีเพียงสถานการณ์เดียวที่จะสวมใส่ชุดกิโมโนออกจากบ้าน ก็คือตอนที่ดอกซากุระกำลังเบ่งบาน ก็จะใส่ชุดกิโมโนออกมาชื่นชมซากุระ ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหากคุณมาญี่ปุ่น ฉันก็ยังใส่ชุดนี้ชมซากุระเป็นเพื่อนคุณ!”
เย่เฉินพยักหน้าครู่หนึ่งแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นขอกล่าวไว้ก่อนว่า ถึงตอนนั้นผมไม่ใส่ชุดตามธรรมเนียมของพวกคุณนะ”
นานาโกะในชุดซิ่วเหอสีแดงทั้งชุด แล้วก็ควบคู่เข้ากับดอกซากุระสีชมพูขาวที่ผลิบานไปทั่วอีก แม้ว่าภาพนั้นจะยังไม่เห็นก็ตาม แต่คิดไปแล้วก็จะต้องงดงามอย่างแน่นอน
ดังนั้นเขาก็เลยกล่าวกับนานาโกะว่า: "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ผมจะไปญี่ปุ่นสักรอบอย่างแน่นอน"
อิโตะ นานาโกะกล่าวออกมาอย่างยินดียิ่ง: “จริงเหรอ? งั้นพวกเราตกลงกันไว้แน่นอนแล้วนะ! ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าฉันจะรอคุณอยู่ที่ญี่ปุ่น!”
ทั้งสองคนได้นัดหมายกันไว้เรียบร้อยแล้ว นานาโกะอารมณ์ดีจนถึงขั้นที่ไม่สามารถพรรณนาออกมาเป็นคำพูดไปเลย เธอเกาะแขนของเย่เฉินไว้อย่างอดใจไว้ไม่ได้ แล้วก็ยังเป็นฝ่ายเริ่มประสานนิ้วมือกับเขาอีก กล่าวอยู่ข้างกายของเขาด้วยเสียงเบาๆ ว่า: “เย่เฉินซัง วันนี้ฉันช่างมีความสุขจริงๆ เลย ที่จริงวันนี้ก็เป็นวันเกิดของโอโต้ซัง คิดไม่ถึงว่าฉันยังสามารถมาพบเจอคุณได้ที่นครนิวยอร์กอีก และที่สำคัญก็คือคิดไม่ถึงว่าโอโต้ซังจะฟื้นฟูกลับมาดังเดิม สิ่งนี้สำหรับเขาแล้วมันช่างมีความหมายลึกซึ้งมากมายยิ่งนัก......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...