ในตอนที่เห็นเหออิงซิ่ว ซูโสว่เต้าตื่นเต้นจนหัวสมองขาวโพลน จากนั้นเขาก็นึกไปถึงขั้นตอนที่เย่เฉินได้บอกกับตัวเอง ตั้งจิตให้มั่น แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าในทันที
ในจังหวะที่ซูโสว่เต้าคุกเข่าลงมานั้น ซูรั่วหลีก็ตระหนักรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของพ่ออย่างฉับพลัน ร่างทั้งร่างตื่นเต้นจนต้องเอามือปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อ
ส่วนเหออิงซิ่วก็ราวกับจะรู้ถึงจุดประสงค์ของซูโสว่เต้า เธอที่เพิ่งจะมีความมั่นใจขึ้นมา ทันใดนั้นก็รู้สึกประหม่ามากขึ้นไปอีก
เพราะว่า ในความคิดของเธอ หลายปีมานี้ของตัวเอง อันที่จริงแล้วก็คือคนรับใช้ของตระกูลซู ไม่คู่ควรกับคุณชายอย่างซูโสว่เต้าเลยสักนิด อีกทั้งเธอก็เป็นคนพิการมากว่ายี่สิบปี จิตใต้สำนึกรู้สึกว่า ระยะห่างของตัวเองกับซูโสว่เต้านั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ต่อให้ฝันก็ไม่กล้าที่จะหวังสูงถึงเพียงนี้
แต่ว่า เมื่อเห็นซูโสว่เต้าที่สวมชุดสูทแล้วคุกเข่าลงตรงหน้าตัวเองแบบนี้ เหออิงซิ่วก็ตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นรัว แม้แต่การหายใจก็ยังติดขัด
ซูโสว่เต้าเอาแต่ก้มหน้าลง หลังจากที่คุกเข่าลงแล้ว ก็ล้วงไปยังกระเป๋าเสื้อสูทด้านใน หยิบเอากล่องแหวนออกมา
จากนั้น มือข้างหนึ่งของเขาจับกล่องแหวนเอาไว้ มืออีกข้างก็เปิดฝากล่อง เงยหน้าขึ้นมองไปยังเหออิงซิ่วที่แทบไม่เห็นรอยเหี่ยวย่นของใบหน้า พูดอย่างตื่นเต้นที่สุดว่า “อิงซิ่ว……หลายปีมานี้ ปล่อยให้คุณต้องเลี้ยงดูรั่วหลีเพียงลำพัง ลำบากคุณแล้ว……”
น้ำตาของเหออิงซิ่วไหลพราก แต่ก็ทำเพียงส่ายหน้าให้อย่างควบคุมไม่ได้ พูดเสียงแผ่ว“ไม่ลำบาก……ไม่ลำบากเลย……”
หัวสมองของซูโสว่เต้าพันกันยุ่งเหยิง ทันทีที่พูดออกไปก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นหลงทิศหลงทางไปแล้ว แหวนก็โชว์หราให้เห็น ยังไม่สมควรที่จะพูดขอแต่งงานก่อนงั้นเหรอ?
พูดตามตรง เหออิงซิ่วไม่เคยคิดมาก่อน ว่าชีวิตนี้จะได้แต่งงานกับซูโสว่เต้า
นอกจากความแตกต่างอย่างมากของคนทั้งสองแล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อนที่เธอมีความสัมพันธ์กับซูโสว่เต้า เธอก็รู้สึกผิดมาโดยตลอดที่เข้าไปแทรกในความสัมพันธ์ของซูโสว่เต้ากับตู้ไห่ชิงในตอนนั้น ดังนั้นตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เธอก็แทบไม่เคยมาเจอกับซูโสว่เต้าเลย
ต่อให้ทั้งตระกูลเหอต้องมาคอยรับใช้ตระกูลซู และต่อให้ซูรั่วหลีที่โตแล้วต้องมาคอยดูแลซูโสว่เต้า แต่เหออิงซิ่วก็อยู่ที่เมืองโม่เฉิงตลอด ไม่เคยย่างกรายไปที่ตระกูลซูเลยแม้แต่ก้าวเดียว
ดังนั้น เมื่อจู่ๆซูโสว่เต้าก็มาขอเธอแต่งงาน เธอก็จึงไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง ดังนั้นก็จึงยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่ขยับเคลื่อนไหวใดๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...