ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4933

แต่ สาเหตุเนื่องจากตึงเครียด หนึ่งเหรียญในสามเหรียญทองแดงนั้นเนื่องจากใช้แรงมากเกินไป เลยหล่นไปอยู่บนพื้นจากบนโต๊ะ หลังจากเด็กสาวเห็นสองเหรียญนั้นที่อยู่บนโต๊ะ พอจะลุกขึ้นมองที่อยู่บนพื้นนั่นให้ชัดเจน จู่ ๆ ด้านนอกก็มีคนกรีดร้องอย่างน่าเวทนา ตะโกน : “เร็ว ! มีนักฆ่า !”

จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนระบายลูกกระสุนออกมา ท่ามกลางวัตถุโดยรอบ

สีหน้าของผู้อาวุโสหวาดกลัวทันที เอ่ยปากบอก : “คุณหนูครับ……พวกเขามาหาถึงที่แล้ว……”

สีหน้าของเด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะหวาดผวายิ่งกว่า ตอนที่เธอกำลังจะมองเหรียญทองแดงเหรียญสุดท้ายให้ชัดเจน แต่ผู้อาวุโสคนนั้นได้ควักปืนสั้นด้ามหนึ่งออกจากช่วงเอวแล้ว ถอยหลังแล้วขวางอยู่ด้านหน้าเธอ พลันเอ่ยด้วยสีหน้าน่าเกรงขาม : “คุณหนู วางใจได้ครับ ขอเพียงกระผมยังมีชีวิตอยู่ จะปกป้องคุณรอบด้านอย่างสุดชีวิตแน่นอนครับ !”

พอพูดจบ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ใกล้เข้ามา ลูกกระสุนหลายนัดถึงขนาดที่ว่ายิงมาที่กำแพงห้องหนังสือเลย

จากนั้น จู่ ๆ ประตูห้องหนังสือก็ถูกคนถีบออกในเท้าเดียว คนเสื้อดำที่แบกปืนไรเฟิลพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วอยู่หลายคน

ผู้อาวุโสยิงปืนไปทางคนนั้นที่เป็นผู้นำทันทีโดยไม่ลังเลเลยสักนิด แต่คนนั้นที่เป็นผู้นำกลับหลบลูกกระสุนของอีกฝ่ายที่ยิงออกมาจากปากกระบอกปืนอย่างง่ายดาย จากนั้น พุ่งไปด้านหน้า จับข้อมือของผู้อาวุโสที่ถือปืนเอาไว้ ทำให้ผู้อาวุโสไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

จากนั้น คนที่เป็นผู้นำคนนั้นเผยรอยยิ้มโหดร้าย จู่ ๆ มืออีกข้างหนึ่งหยิบดาบสั้นเล่มหนึ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้ ยกมือขึ้นเตรียมจะตัดแขนของผู้อาวุโสอยู่รอมร่อ

เด็กสาวคนนั้นรีบเอ่ยเสียงสูง : “พวกคุณอยากได้อะไรก็หยิบเอาไปได้เต็มที่เลย ขอเพียงอย่าแตะต้องคุณปู่ของฉัน !”

คนที่เป็นผู้นำคนนั้นมองเด็กสาวแล้วยิ้มเย็น พลันเอ่ยปากพูด : “ขอโทษด้วยนะครับสาวน้อย พวกเราไม่ได้มาปล้น เรามาพาตัวคุณสองคนไปต่างหาก”

สีหน้าของเด็กสาวฉายเสี้ยวความลุกลี้ลุกลน กลับแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน : “เราเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่ค่อยมีเงินและไม่ค่อยมีทรัพย์สินอะไร ลักพาตัวพวกเราไป คงไม่สร้างผลประโยชน์ที่ดีอะไรตามมาให้พวกคุณหรอก……”

คนที่เป็นผู้นำคนนั้นหัวเราะเอ่ย : “ยัยหนูน้อย ตอนที่ฉันเพิ่งเข้ามา เห็นว่าชามที่พวกเธอใช้ให้อาหารแมวล้วนเป็นเครื่องลายครามสมัยราชวงศ์หยวนที่เป็นเครื่องปั้นดินเผากวน ลำพังแค่เครื่องลายครามในบ้านหลังนี้ อย่างน้อยก็มีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์แล้วนะ ? เธอนึกว่าฉันไม่รู้อะไรเลย จะถูกยัยหนูคนหนึ่งอย่างเธอเล่นจนหัวหมุนอย่างนั้นเหรอ ?”

พอเด็กสาวได้ยินคำนี้ ก็เอ่ยโดยไม่ต้องคิด : “ในเมื่อคุณรู้จักของดี งั้นก็เอาเครื่องลายครามพวกนั้นไปสิ ขอเพียงปล่อยฉันกับคุณปู่ของฉันให้มีชีวิตอยู่ต่อก็พอ !”

คนที่เป็นผู้นำคนนั้นพูดด้วยเสียงเย็นชา : “วางใจได้ ฉันจะไม่ฆ่าพวกเธอหรอก เพราะคำสั่งที่ฉันได้รับ คือพาตัวพวกเธอสองคนกลับไปอย่างเป็น ๆ !”

ผู้อาวุโสได้ยิน ก็รีบเอ่ย : “ดี ! งั้นฉันตามพวกคุณไป หลานสาวฉันอายุยังน้อย พวกคุณก็เมตตาผ่อนผันให้หน่อย ปล่อยเธอไปเถอะ !”

คนที่เป็นผู้นำคนนั้นยิ้มเอ่ยด้วยความเหยียดหยาม : “ไอ้แก่ คนข้างนอกแกตายหมดเกลี้ยงแล้ว แกมีสิทธิ์อะไรมาเจรจาเงื่อนไขกับฉัน ?”

พูดจบ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเคารพเลื่อมใสในชั่วพริบตา แล้วเอ่ยอย่างเต็มไปด้วยยกย่องเชิดชู : “ผู้มีพระคุณมีคำสั่ง ให้พวกแกสองคนไปพบเขาเป็น ๆ ! จำเอาไว้ นี่เป็นเกียรติของพวกแกสองคน ! ถึงแม้เป็นฉัน ก็ไม่มีโอกาสได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้มีพระคุณ !”

พูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ เขาก็ยิ้มโดยยากที่จะปกปิดความตื่นเต้นเอาไว้ แล้วเอ่ยปากพูด : “ทว่าครั้งนี้พึ่งบุญวาสนาของพวกแกสองคน ไม่แน่ว่าหลังจากฉันสร้างความดีความชอบดีเด่น ก็มีโอกาสไปพบผู้มีพระคุณด้วยเหมือนกัน !”

ในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงเคร่งขรึมหนึ่งดังขึ้นนอกประตู : “ขอโทษด้วยนะ แกไม่มีโอกาสนี้แล้ว !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน