ส่วนครอบครัวทั้งแปดคนนี้ ตอนที่แปดคนนี้มีชีวิตอยู่ได้ทักทายกับพวกเขาแล้ว กล่าวว่าตัวเองเป็นตายอย่างไรก็ต้องรับ จะกลับบ้านช้าหน่อย ดังนั้นครอบครัวเลยไม่ได้พบความผิดปกติใด ๆ
และในตอนนี้ ในฟาร์มแห่งหนึ่งที่ชานเมืองทางใต้เบอร์เกน มีศพที่ไร้ลมหายใจนอนอยู่ในห้องเพิ่มอีกศพ
นอกประตูฟาร์มแขวนป้ายชิ้นหนึ่งไว้อยู่ ด้านบนใช้ภาษาอังกฤษเขียนหนึ่งบรรทัด : “ทรัพย์สินแห่งนี้อยู่ในระหว่างการค้าขาย”
สถานที่แห่งนี้ เดิมทีก็จะไม่ค่อยมีคนผ่าน หากว่ามีคนผ่าน เห็นป้ายนี้ ก็จะไม่เกิดความสนใจใด ๆ ต่อฟาร์มแห่งนี้อีก
หากว่าองค์กรลึกลับไม่ส่งคนมาสืบหาสาเหตุละก็ งั้นอยากรอให้ที่นี่ถูกเปิดเผย อย่างนั้นก็ต้องรอจนถึงศพพวกนี้เน่าเปื่อยมากขึ้น กลิ่นทอดยาวไปไกลหลายร้อยเมตรจึงจะมีความเป็นไปได้
แต่อย่างน้อยก็ต้องห้าถึงเจ็ดวันขึ้นไป
ดังนั้น สิ่งนี้ก็เพื่อให้หลินหว่านเอ๋อร์ได้รับเวลาที่มากเพียงพอที่จะหนีออกจากยุโรปเหนือ
องครักษ์ทหารม้ากล้าเจ็ดคน ผ่านการเร่งเดินทางให้เร็วขึ้นเป็นทวีคูณในเวลากลางคืน หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นก็ถึงยอดเขาสูงสุดของเมืองออสซูแล้วเช่นกัน
ว่าแล้วก็น่าขายหน้าอยู่หน่อย ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลของยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองออสซูถึงกับไม่ถึงห้าร้อยเมตร
ว่านพั่วจวินรับคนพวกนี้เข้ามาได้อย่างราบรื่น ซ่อนพวกเขาไว้ในเมืองออสซูเป็นการชั่วคราว รอคำสั่งถัดไปของเย่เฉิน
ส่วนเย่เฉิน
หลังจากเขากลับไปถึงวิลล่า อารมณ์ก็กลัดกลุ้มเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เขาเอายาเสริมชี่ปราณเข้าไปเม็ดหนึ่ง เพื่อแหวนวงนั้น ไม่สามารถพูดได้ว่าไม่ได้ยินเสียงดังเลย พูดได้แต่ว่าได้ยินเสียงดังเพียงไม่กี่เสียงเท่านั้นเอง
แม้ว่าเย่เฉินไม่ใช่คนขี้งก แต่ยาเสริมชี่ปราณเป็นของที่ล้ำค่าตามความเป็นจริง ดังนั้นการสิ้นเปลืองไปขนาดนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจจริง ๆ
เฮเลน่าไม่ได้นอนทั้งคืน เพื่อรอการกลับมาของเย่เฉิน
ในหัวของเธอคิดถึงการสนทนานั่นระหว่างคุณย่าอยู่ตลอดโดยควบคุมเอาไว้ไม่ได้ ในหัวสับสนยุ่งเหยิงมาก
เธอรู้ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือการรีบอุ้มท้องลูกของเย่เฉินให้ไวที่สุด สำหรับสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้แล้ว
แต่ว่า เธอก็รู้ เย่เฉินไม่เพียงแต่งงานแล้ว ข้างกายยังมีคนตามจีบนับไม่ถ้วน เย่เฉินไม่ได้รู้สึกอะไรกับตัวเองเลยด้วย
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จะทำอย่างไรให้เย่เฉินเต็มใจเกิดอะไรพวกนี้กับตัวเองบ้างดีนะ ?
ดังนั้น ทุกครั้งที่คิดถึงตรงนี้ เฮเลน่าก็อยากจะสลัดความคิดที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงนี้อีกหลาย ๆ ครั้ง
แต่ว่า พอนึกถึงสถานการณ์ที่ตัวเองกับทั้งราชวงศ์ยุโรปเหนือตกอยู่ในขณะนี้ เธอก็คิดหาวิธีแก้ไขที่ดียิ่งกว่านี้ไม่ออกจริง ๆ
อีกทั้ง ในใจของเฮเลน่ารู้ดี ก่อนหน้าคุณย่าไม่ได้ปฏิบัติกับตัวเองอย่างใจจริงนัก คุณย่าพูดมาโดยตลอดว่าหากว่าตัวเองไม่มีผู้สืบสกุล ในอนาคตอาจจะไปยืมจักรพรรดิไม่ก็จักรพรรดินีที่ราชวงศ์ยุโรปอื่น ๆ เอา
แต่ในใจของเฮเลน่ารู้ดี หากว่าตัวเองไม่มีผู้สืบสกุลจริง งั้นรอหลังจากตัวเองตายไป รัฐบาลยุโรปเหนือและประชาชนยุโรปเหนือ จะต้องไปเชิญโอลิเวียผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องหญิงของตัวเองสายนั้นกลับมารับช่วงบัลลังก์อย่างแน่นอน
หากว่าโอลิเวียมีลูกสาวลูกชาย งั้นลูกสาวลูกชายของเธอในอนาคต มีความเป็นไปได้สูงมากกว่าจะกลายเป็นจักรพรรดิไม่ก็จักรพรรดินีของยุโรปเหนือ
เมื่อเป็นแบบนั้น บัลลังก์ก็จะกลับไปอยู่ในเงื้อมมือของโอลิเวียกับชนรุ่นหลังของเธออีกครั้ง
นี่ เป็นสิ่งที่เฮเลน่ายอมที่จะตาย ดีกว่าได้เห็น
ไม่ง่ายเลยกว่าที่ตัวเองจะได้ตำแหน่งจักรพรรดินีจากในมือของโอลิเวีย ภายใต้ความช่วยเหลือของเย่เฉิน หากว่าหลังจากตายไป บัลลังก์ยังถูกลูกหลานของโอลิเวียแย่งกลับไปอีก งั้นเธอยอมที่จะให้ทั้งราชวงศ์ยุโรปเหนือถอนตัวออกจากเวทีประวัติศาสตร์ไปเลย
ความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง ความเป็นจริงที่พัวพันกันอุตลุด ทำให้เฮเลน่าเหนื่อยไปทั้งกายและใจ
เธอถึงขนาดที่ว่านึกเสียใจภายหลังอยู่หน่อย นึกเสียใจที่กลับมาจากหัวเซี่ย นึกเสียใจที่เหยียบขึ้นบัลลังก์จักรพรรดินี
หากว่าตอนนั้นเลือกที่จะอยู่หัวเซี่ย บางทีอาจจะยังสามารถใกล้กับเย่เฉินอีกหน่อย และไม่ต้องกลัดกลุ้มกระวนกระวายใจเรื่องราชวงศ์อีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน