หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า เอ่ยทอดถอนใจ : “นี่น่าจะเป็นการคาดการณ์ที่มีความเป็นไปได้สูงสุดแล้ว”
คนใช้อดไม่ได้ที่จะถามเธอ : “คุณหนูครับ คุณคิดว่าเขาจะส่งทหารม้ากล้าพวกนี้ไปที่ไหนเหรอครับ ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ชะงักไป หัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด : “ฉันเองก็คิดปัญหานี้อยู่ ตอนนั้นเขาบอก ให้ทหารม้ากล้าพวกนี้ไปบนเขาที่สูงที่สุดของเมืองออสซูเพื่อไปพบกับคนของเขา หากว่าไม่ใช่สถานการณ์เร่งด่วน ตอนนั้นไม่มีคนที่ใช้การได้อีก ฉันยังอยากตามไปดูเลยจริง ๆ ”
คนใช้อดไม่ได้ที่จะพูดเบา ๆ : “ก็ไม่รู้ว่า กำลังของเขามีความต่างจากองค์กรนั้นมากแค่ไหน”
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้พูดจา แต่หยิบปืนไรเฟิลจู่โจมที่ถูกมีดทะลุวิญญาณของเย่เฉินหั่นเป็นสองท่อนอย่างเรียบร้อยจากในมือของผู้บัญชาการทหารม้ากล้าขึ้นมา
นิ้วของเธอลูบรอยผ่าของท่อนที่เรียบร้อยจนแทบไม่มีเงี่ยงเลยสักนิดนั่น บ่นพึมพำ : “ฉันเองก็ไม่แน่ใจกำลังทั้งหมดของเขาหรอก แต่กำลังส่วนตัวนั้นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ต่อให้ใช้อุปกรณ์ทันสมัย ก็ไม่สามารถที่จะหั่นปืนนี่เป็นแบบนี้ได้ คิดว่าปราณทิพย์ของเขาสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว หากว่าในอนาคตยังสามารถพัฒนาขึ้นได้ วันหน้าจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน”
คนใช้ถามเธอ : “คุณหนูครับ พูดถึงปืนกระบอกนี้ คุณไม่ได้เอาภาพอักษรโบราณที่ล้ำค่ามากขนาดนั้นมา ทำไมดันเอาปืนกระบอกนี้ออกมาล่ะครับ ?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดราบเรียบ : “เรื่องเมื่อกี้นี้คุณเองก็เห็นแล้ว คนของพวกเขาหายตัวไปตอนไล่ตามจับฉัน งั้นพวกเขาจะส่งคนมาตรวจสอบแน่นอน”
“และก่อนหน้าที่พวกเขาไม่ได้เห็นปืนกระบอกนี้ พวกเขาก็จะไม่คิดว่าทหารม้ากล้าพลาดท่าได้ยังไงกันแน่ หรืออาจจะคิดว่าทหารม้ากล้าเพียงแค่เตรียมตัวมาไม่เพียงพอ ถูกคนข้างกายของฉันจัดการเข้าให้น่ะสิ”
“แต่ว่า หากว่าพวกเขาเห็นปืนกระบอกนี้……งั้นสถานการณ์ก็แตกต่างออกไปแล้ว !”
“บนโลกนี้ คนที่สามารถทำแบบนี้ได้งอนับนิ้วได้เลย ขอเพียงพวกเขาเห็นปืนกระบอกนี้ ก็จะตระหนักว่าได้มีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งแล้ว และคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งคนนี้ยังมีปราณทิพย์ด้วย”
“คนที่มีปราณทิพย์ เดิมทีน้อยมากอยู่แล้ว แบบนั้นละก็ หากว่าวันใดวันหนึ่งเย่เฉินเปิดเผยกำลัง อีกฝ่ายก็จะล็อกเป้าไปที่เขาทันที แบบนี้จะนำความยุ่งยากไปให้เขาเอาอย่างมาก”
ครั้นแล้ว คนรับผิดชอบที่กำลังรอขบวนรถของทหารม้ากล้าอยู่นอกประตูสนามบินกอเทนเบิร์ก ได้รับสายที่ไวเคานต์ท่านนั้นโทรมา
ในสาย อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว : “ไม่ต้องรอแล้ว ตอนนี้เริ่มส่งของเข้าศุลกากรได้เลย ให้ออกบินตามปกติ”
คนรับผิดชอบนั่นพูดด้วยความตกใจ : “ท่านไวเคานต์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับทหารม้ากล้ากันแน่ครับ ?”
ไวเคานต์ท่านนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ทหารม้ากล้าแปดคนตายหมดแล้ว เป้าหมายก็หนีไปแล้วด้วย ผู้มีพระคุณมีคำสั่ง ให้ยุติแผนการ”
คนรับผิดชอบอดไม่ได้ที่จะตกใจจนพูดไม่ออก กำลังของทหารม้ากล้าแปดคนไม่ธรรมดาเลย ถึงกับพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในสถานที่เล็ก ๆ ของยุโรปเหนือนี้ สิ่งนี้ทำให้เขานึกไม่ถึงจริง ๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...