ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4966

โลลิต้านึกไม่ถึง ภายในเวลาสั้น ๆ อีกฝ่ายถึงกับเปลี่ยนไปโหดเหี้ยมเช่นนี้ เธอสูญเสียอำนาจก่อนหน้านี้ภายในชั่วพริบตา ตกใจกลัวจนไม่กล้าพูดสักประโยคเลย

เธออายุยังน้อย แม้ว่าถูกองค์กรมนุษยธรรมนี้ดันไปใช้เป็นปืนหน้าเวทีอยู่หลายปี แต่เธอแค่ไปพูด แสดงละคร ตามเงื่อนไขโดยทำตามตัวหนังสืออย่างตายตัวเพียงเท่านั้น และไม่รู้ความสัมพันธ์เชิงผลประโยชน์กับสาเหตุเชิงลึกที่อยู่เบื้องหลังเลย

เธอรู้เพียงแค่ ขอเพียงตัวเองไปทำตามเงื่อนไขพวกเขาแล้ว ตัวเองและครอบครัวก็จะได้รากฐานวัตถุดี ๆ ถึงขนาดที่สามารถอาศัยโอกาสนี้ก้าวขึ้นสังคมไฮโซได้เลย

แต่เธอไม่รู้ความเป็นมาที่แท้จริงขององค์กรมนุษยธรรมนี้

ตอนช่วงก่อนหน้านี้ที่ โลลิต้าถูกดันไปจุดสูงสุดในชื่อเสียงระดับโลก เธอเองก็เคยเกิดความคิดที่จะหลุดพ้นจากองค์กรมนุษยธรรมนี้ และเลี้ยงครอบครัวด้วยลำแข้งของตัวเอง

อย่างไรซะจากมุมมองของเธอ ตอนนี้เธอเป็นบุคคลโด่งดังระดับโลก มีแฟนคลับนับไม่ถ้วน ถึงขนาดที่ได้รับการต้อนรับจากผู้นำหลาย ๆ ประเทศ และได้รับการยกย่องเป็นเสียงเดียวกันจากพวกเขา ไม่มีความจำเป็นต้องให้องค์กรระดับสูงมาควบคุมตัวเองอีกแล้ว

แต่ว่า ตอนที่เธอเอ่ยถึงความคิดนี้กับพ่อของเธอเอง กลับได้รับการตำหนิอย่างเข้มงวดจากพ่อ แม้ว่าในใจของโลลิต้าจะไม่ยอมก็ตาม แต่ไม่กล้าเป็นปฏิปักษ์กับพ่อด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ว่า ขณะนี้ตัวเองได้รับปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้แล้ว จากมุมมองของเธอนั้น เป็นโอกาสทองที่จะแตกหักกับอีกฝ่ายเลย !

ครั้นแล้ว เธอรีบควักมือถือออกมา แล้วโทรหาพ่อ

พอสายเชื่อมต่อแล้ว เธอก็ร้องห่มร้องไห้แล้วก็พูดไปด้วย : “พ่อคะ ! หนูจะแตกหักกับพวกเขา ! จากนี้ไม่ต้องมีความสัมพันธ์ใด ๆ กับพวกเขาอีกแล้ว !”

พ่อของเธอถามด้วยความประหลาดใจมาก : “พวกเขาที่ลูกพูดถึงเป็นใครกัน ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

โลลิต้าพูดด้วยความโมโห : “องค์กรสิทธิมนุษยชนที่พ่อเข้าร่วมนั่นไง ! พวกเขาไม่เคารพหนูเลยสักนิด วันนี้ให้หนูมาขึ้นเวทีให้พวกเขา รับปากว่าจะให้กระเป๋าถือหิมาลายาแอร์เมสให้หนูหนึ่งใบ ผลลัพธ์จู่ ๆ ก็ยกเลิกสัญญา ไล่หนูลงมาจากบนรถด้วย !”

ว่าแล้ว เธอก็พูดด้วยความน้อยใจไม่หยุด : “พ่อคะ ! นับจากวันนี้เป็นต้นไป หนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับคนพวกนี้ นับจากนี้ไปหนูก็คือหนู หนูอยากทำอะไรก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับพวกเขา !”

เดิมทีโลลิต้านึกว่าคำพูดนี้ของตัวเองสามารถทำให้พ่อสงสารเธอได้ และสนับสนุนการตัดสินใจที่ตัวเองได้ทำไปเมื่อครู่ แต่ว่าแม้แต่ฝันเธอก็นึกไม่ถึง พ่อที่อยู่ในสายนั่นถึงกับโมโหจนถึงขีดสุดกะทันหัน !

เขาตวาดผ่านโทรศัพท์ : “โลลิต้า แกบ้าไปแล้วหรือเปล่า ? แกรู้หรือเปล่าว่าวันนี้ของแก และวันนี้ของครอบครัวเราได้มายังไงกันแน่ ?”

โลลิต้าหลุดปากพูดตามจิตใต้สำนึก : “แน่นอนว่าหนูทุ่มเทพยายามเพื่อให้ได้มาน่ะสิคะ ! ทุกวันหนูไม่ไปเข้าคาบเรียนของโรงเรียน ไปชูป้ายประท้วงไปทั่ว ช่วงชิงมาจากการที่ต้านฟ้า ต้านดิน ต้านอากาศอยู่ทุกที่ไงคะ ! หากว่าหนูไม่ได้ทุ่มเทความเหน็ดเหนื่อยของหนู จะมีวันนี้ของครอบครัวเราได้ยังไงกันคะ !”

พ่อของโลลิต้าได้ยินคำพูดนี้ ก็ด่ากราดทันที : “แกรีบหุบปากเชียวนะ ! หากไม่ใช่ว่าพวกเขาปฏิบัติการอยู่เบื้องหลัง ต่อให้อายุน้อย ๆ อย่างแกหยุดเรียนไปเดินแหกปากตะโกนบนถนน ก็จะไม่มีคนเหลือบมองแกหรอก !”

“แกต้องจำเอาไว้ ! แกมีวันนี้ได้ ทั้งหมดนั้นอาศัยพวกเขาที่คอยช่วยแกทำบทละครการตลาดแบบต่าง ๆ อยู่เบื้องหลัง สื่อมวลชนพวกนั้นที่ทำการเสนอข่าวแกแบบต่าง ๆ ล้วนเป็นปฏิบัติการที่พวกเขาจ่ายเงินไว้ลับ ๆ และพวกเขาทำทิศทางการประท้วงชุดหนึ่งให้แก โดยมีความร่วมมือเชิงลึกกับสื่อมวลชนประเทศต่าง ๆ ต่างหาก !”

“อย่าได้ลืมเชียวล่ะ แม้กระทั่งสโลแกน “คุณกล้าได้ยังไง” ประโยคนั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของแก ก็เป็นสิ่งที่นักวางแผนของพวกเขาทำให้แก ไม่อย่างนั้นละก็ แกอย่านึกว่าอาศัยเพียงแค่แกกระโดดออกมาร้องสองประโยคเพียงเท่านั้น ชื่อเสียงก็สามารถโด่งดังไปทั่วโลกได้แล้ว ? !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน