ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 4967

โลลิต้าถูกพ่อด่าจนพูดไม่ออก สักพักหนึ่งจึงจะได้สติกลับมา พูดอย่างไม่เต็มใจ : “ก็ต่อให้พวกเขาประคองหนูขึ้นมาแล้วจะยังไง ? ตอนนี้หนูเป็นบุคคลปกป้องสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว อิทธิพลของหนูวางอยู่ที่นี่ ไม่ต้องการความช่วยเหลือใด ๆ จากพวกเขา ก็สามารถสร้างมูลค่ามหาศาลได้เหมือนกัน !”

พ่อของโลลิต้าด่ากราดด้วยความกระหืดกระหอบ : “สมองแกมีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ ? แกเคยคิดบ้างไหม ตอนที่แกถูกพวกเขาประคองขึ้นมาในตอนแรกนั้น เป็นเพียงเด็กตัวน้อยที่อายุสิบขวบต้น ๆ แกทำตามคำสั่งของพวกเขาเหมือนหุ่นเชิดอย่างไรอย่างนั้น ในมือของพวกเขาย่อมมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องจำนวนมากอย่างแน่นอน หากว่าแกขัดแย้งกับพวกเขา พวกเขาก็จะแฉสถานการณ์ที่แท้จริงของแกออกมาทันที ถึงเวลานั้น แกก็ชื่อเสียงป่นปี้ ! ความฝันที่ฉันกับแม่ของแกที่จะก้าวขึ้นสังคมไฮโซก็จะดับสูญ ! ทั้งครอบครัวของเราก็จะถูกทำให้กลับเป็นเหมือนเดิม ถึงขนาดที่ตกลงถึงจุดที่ตกต่ำที่สุดเลยก็ว่าได้ !”

อันที่จริง พ่อของโลลิต้า ยังไม่ได้พูดประโยคหนึ่งออกมา

แม้ว่าเขาไม่แน่ใจเบื้องหลังโดยละเอียดขององค์กรมนุษยธรรมนี้นัก แต่ว่าเขารู้ว่า อุบายขององค์กรนี้โหดเหี้ยมมาก หากว่าเป็นปฏิปักษ์กับพวกเขาจริง ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งจะก่อให้เกิดหายนะแห่งความตายเอาไว้

ในตอนนี้โลลิต้าก็ถูกคำพูดของพ่อทำให้ตกใจกลัว เธอที่สมองเรียบง่าย ไม่ได้นึกถึงเลยว่า อีกฝ่ายได้กุมจุดอ่อนนับไม่ถ้วนของตัวเองอยู่ในเงื้อมมือตั้งนานแล้ว

หากว่าอีกฝ่ายเปิดเผยรายละเอียดพวกนี้จริง งั้นตัวเองจะต้องชื่อเสียงป่นปี้อย่างแน่นอน ไม่มีวันเงยหน้าอ้าปากได้อีก

โลลิต้าห่อเหี่ยวขั้นสุด ท้ายที่สุดทำได้แต่ปืนขึ้นมาจากบนพื้นอย่างเงียบ ๆ ตบฝุ่นบนตัว จากนั้นควักหน้ากากจากในกระเป๋าออกมา หลังจากสวมไว้แล้ว เดินเตร่มาถึงข้างถนน กวักมือขวางรถแท็กซี่คันหนึ่งเอาไว้

สาเหตุที่ต้องสวมหน้ากาก เป็นเพราะตัวเธอเองนั้นเรียกร้องให้ปกป้องสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอด ถึงขนาดที่เรียกร้องให้คนทั่วโลกอย่าขับรถยนต์อีก ตามทัศนคติที่เธอเน้นย้ำที่โลกภายนอกอยู่ตลอด การขับรถนั้นมีความผิด มิหนำซ้ำการนั่งรถแท็กซี่ หากว่าถูกคนจับได้ว่าเธอนั่งรถแท็กซี่ เกรงว่าคงแทงกระดูกสันหลังของเธอจนแตกละเอียดเลย

ตอนที่โลลิต้าจากสนามบินไปอย่างกลัดกลุ้ม ของล็อตนั่นกำลังผ่านศุลกากร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน