ผู้ชายคนนั้นชะงักเล็กน้อย พูดด้วยความตื่นเต้น : “ผู้มีพระคุณครับ ! กระผมมีคำถาม ขอบังอาจให้ท่านตอบคำถามด้วยครับ !”
ผู้มีพระคุณพูดราบเรียบ : “ว่ามา !”
ผู้ชายคนนั้นรีบเอ่ย : “ผู้มีพระคุณครับ ภายในเวลาสั้น ๆ เราประสบความล้มเหลวติดต่อกัน การลอบสังหารตระกูลอานที่นครนิวยอร์กครั้งนั้น พวกเราวางหมากอย่างดีที่สุดเช่นนี้ ผลสุดท้ายทหารหน่วยกล้าตายที่ส่งออกไปตั้งเยอะขนาดนั้นไม่ได้กลับมาสักคนหนึ่ง หาไม่เจอแม้กระทั่งศพศพเดียวเลย ครั้งนี้ไปยุโรปเหนือก็เหมือนกัน ทหารม้ากล้าแปดนายล้วนเป็นยอดฝีมือระดับท๊อป นอกเหนือจากผู้บัญชาการที่กินยาพิษฆ่าตัวตายแล้ว คนอื่น ๆ ก็หายสาบสูญ ท่านว่าเบื้องหลังของสองเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวเนื่องอะไรไหมครับ ?”
“เกี่ยวเนื่อง ?” ผู้มีพระคุณถามเย็นยะเยือก : “นายคิดว่า มีคนลอบฆ่าเราลับ ๆ อย่างนั้นเหรอ ?”
ผู้ชายคนนั้นเอ่ย : “ผมเองก็พูดยาก ผมแค่รู้สึกว่าสองเรื่องนี้แปลกประหลาดเกินไป สองเรื่องนี้เราต่างมีข่าวกรองที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าเป็นตระกูลอาน หรือว่าหลินหว่านเอ๋อร์ก็ตาม พวกเขาต่างก็ไม่มีกำลังที่ต้านทานเราได้ แต่ผลลัพธ์ของเรื่องคือกำลังทหารที่เราส่งออกไปนั้นดันสูญเสียหมดเกลี้ยง นี่มันเหนือความจริงเกินไปหน่อยนะครับ”
ผู้มีพระคุณพูดราบเรียบ : “ตระกูลอานเป็นตระกูลสูงสุดในโลกอย่างเปิดเผย นับว่าเป็นบุคคลสาธารณะในระดับหนึ่ง แต่หลินหว่านเอ๋อร์กลับเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยที่แอบซ่อนอยู่ไปทั่วอยู่คนเดียว ลูกน้องพวกนั้นของเธอ ไม่ได้มีโอกาสติดต่อกับโลกภายนอกในวันปกติเลย ครั้งนี้สามารถหาข่าวคราวของเธอมาได้ ก็เป็นเธอที่ซื้อเครื่องลายครามชุดหนึ่ง ที่ร้านขายของเก่า เนื่องจากระงับอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ไหวพอดี เลยเปิดเผยสถานะ ดังนั้นฉันคิดว่าน่าจะไม่มีความเกี่ยวเนื่องโดยตรงอะไรระหว่างพวกเขาหรอก”
ผู้ชายคนนั้นพยักหน้า พูดชื่นชม : “ท่านผู้มีพระคุณมีวิธีเป็นที่สุดครับ ขอเพียงใช้พวกเครื่องลายคราม ก็ตกหลินหว่านเอ๋อร์ออกมาได้แล้ว !”
ผู้ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะพูด : “ผู้มีพระคุณครับ ! หากว่าหลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้โกหก งั้นหมายความว่า เธอได้ทิ้งแหวนไว้ที่ไหนสักแห่งที่ยุโรปเหนือไปแล้วหรือเปล่าครับ ?”
ผู้มีพระคุณพูด : “แม้ว่าแหวนวงนั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเธอ แต่กลับมีคุณค่าลึกซึ้ง เธอไม่มีทางทิ้งไปตามใจชอบเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้อย่างแน่นอน”
ผู้ชายคนนั้นพูดอีก : “หรือว่าจะฝากเก็บไว้ในตู้เซฟที่ธนาคารที่ไหนสักแห่งหรือเปล่าครับ ? แหวนหนึ่งวง หากว่าฝากไว้ในตู้เซฟของธนาคารกับของอย่างอื่นด้วยกันละก็ โดยธรรมดาก็จะไม่ก่อให้เกิดความสนใจอะไรหรอกนะครับ การรักษาความลับของตู้เซฟธนาคารสูงมาก การตรวจสอบตัวตนก็เลือกใช้ลายนิ้วมือ ม่านตา ที่เป็นการยืนยันทางชีวภาพพวกนี้ เธอสามารถใช้ตัวตนปลอมฝากแหวนเข้าไปก่อนได้ จากนั้นเอาออกมาในเวลาที่จำเป็นได้ทุกเมื่อ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...