เย่เฉินเห็นน้ำตาเธอไหลออกมาอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้แล้ว เลยหวนนึกถึงความแปลก ๆ ที่สัมผัสได้ที่ห้องเธอ พลันรู้สึกปวดใจอย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่หน่อย
เพียงแต่ แม้ว่าที่นี่ไม่มีคนนอก แต่อย่างไรซะก็คนเยอะอยู่ ไม่ได้มีเพียงแค่หงห้ากับเฉินจื๋อข่าย ลูกเรือทีมการบินก็อยู่ องครักษ์ของราชวงศ์ก็อยู่ด้านข้างกันหมดเหมือนกัน
ดังนั้น เย่เฉินเลยทำได้แต่พูดปลอบใจ : “เฮเลน่า มีโอกาสละก็ ฉันจะมาอย่างแน่นอน คุณอยู่ที่ยุโรปเหนือ ต้องรักษาตัวให้ดีล่ะ”
ได้ยินคำพูดของเย่เฉิน จู่ ๆ ทำให้หัวใจของเฮเลน่าอบอุ่น เผยเสี้ยวความดีใจที่หาได้ยาก พยักหน้าติดต่อกันแล้วเอ่ย : “คุณเย่ ไม่ว่าเมื่อไร่ ขอเพียงคุณบอกฉันว่าคุณจะมายุโรปเหนือ ฉันจะคอยคุณอยู่ที่เมืองออสซูอย่างแน่นอนค่ะ !”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูด : “เอาล่ะ ส่งถึงตรงนี้เถอะ เราจะขึ้นเครื่องแล้ว”
เฮเลน่าพยักหน้าโดยแฝงไว้ด้วยน้ำตาที่อาลัยอาวรณ์ ตอนนี้ เธออยากกอดเย่เฉิน แล้วเอาใบหน้าซุกไปที่แผงอกเขาสักสองสามวินาทีเบา ๆ มากเลย
แต่ว่า เธอเองก็รู้ ตัวเองไม่สามารถทำการกระทำเช่นนี้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ได้เลย
ครั้นแล้ว เธอทำได้แต่รักษาระยะห่างครึ่งเมตรกับเย่เฉิน แล้วพูด : “คุณเย่คะ งั้นก็ขอให้คุณเดินทางปลอดภัยนะคะ !”
“ครับ” เย่เฉินพยักหน้า และพูดกำชับอีกครั้ง : “คุณเองก็รักษาตัวด้วยล่ะ ลาก่อนครับ”
“ลาก่อนค่ะ……”
เย่เฉินขึ้นเครื่องบินคองคอร์ด โดยที่มีเฮเลน่ามองตามหลังอยู่
กัปตันและลูกเรือทีมการบินก็เข้าประจำที่อย่างไวมาก และเตรียมตัวสำหรับการออกบินเรียบร้อยแล้ว
เฮเลน่าในตอนนี้ยังไม่ได้ออกไปสักก้าว เธอเพียงแค่ถอยไปที่ระยะปลอดภัย เหมือนตั้งใจจะมองตามหลังเครื่องบินของเย่เฉินที่จากไปก่อน
ส่วนพิษร้ายแรงที่อยู่ในร่างกายเจ็ดคนนี้ เย่เฉินยังไม่ได้ขจัดให้พวกเขา
อีกทั้ง เย่เฉินยังอยากไปพบหลี่ญ่าหลิน ห้าสี่เจ็ด รวมทั้งหล่างหงจวิน พี่ท่านนั้นที่เพิ่งได้รู้จัก ระหว่างทางไปเม็กซิโกด้วย
สองชั่วโมงต่อมา เครื่องบินคองคอร์ดที่เย่เฉินนั่ง ก็ลงจอดดามัสกัสเมืองหลวงซีเรียแล้ว
ว่านพั่วจวินกับสมาชิกแกนกลางของสำนักว่านหลงหลายคน ได้รออยู่ที่สนามบินเพื่อรอเย่เฉินลงจากเครื่องบินแล้ว ว่านพั่วจวินรีบเดินไปหา พูดด้วยความนอบน้อม : “คุณเย่ ผมยังนึกว่าคุณจะกลับสหรัฐอเมริกาจากยุโรปเหนือไปเลยซะอีก นึกไม่ถึงว่าคุณยังจะเดินทางอ้อมมาซีเรียที่อยู่ตั้งไกลมาโดยเฉพาะเลย เลยเตรียมตัวฉุกละหุกหน่อย หากว่ารู้ตั้งแต่แรกว่าท่านจะมา ผมจะจัดเตรียมแต่เนิ่น ๆ อย่างแน่นอนครับ”
เย่เฉินยิ้มเอ่ย : “เจ็ดคนนั้นที่ให้นายพากลับมา ในร่างกายยังมีพิษร้ายแรงเพียงพอที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิตอยู่ ให้กำจัดให้พวกเขาละก็ เจ็ดคนนี้ต้องตายภายในไม่กี่วันแน่นอน”
พูดจบ เย่เฉินถามเขา : “จัดเตรียมที่พักไว้ให้เจ็ดคนนั่นเรียบร้อยแล้วใช่ไหม ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...