ในอนาคต จะต้องคิดหาวิธีซื้อที่แห่งนี้เอาไว้อย่างแน่นอน ให้สำนักว่านหลงได้วางแผนการสร้างฐานถาวรได้โดยไม่ต้องพะวง
จากนั้น เย่เฉินกับว่านพั่วจวินและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสำนักว่านหลงไปพร้อมกัน
เฮลิคอปเตอร์ห้าลำแทบจะออกบินไปพร้อมกัน บินไปที่ฐานสำนักว่านหลง
ผ่านการบินหนึ่งชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์ก็ถึงท้องฟ้าบนฐานแล้ว
สามารถมองเห็นจากท้องฟ้าได้ว่า ฐานของสำนักว่านหลงในขณะนี้ก็คือสถานที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ ทุกแห่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่กำลังสร้างอยู่ รวมทั้งยานพาหนะขนส่งที่มีฝุ่นปลิวว่อน
และด้านตะวันออกของฐาน ก็เป็นทางวิ่งเครื่องบินที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
เห็นสิ่งฐานทั้งหมดนี้ที่สร้างไปด้วยบรรยากาศคึกคักกระตือรือร้น เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่รู้สึกปลื้มใจ
สำนักว่านหลงเป็นกำลังการโจมตีที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด นอกเหนือจากตัวเขาเองแล้วในตอนนี้ มีบทบาทอย่างมากสำหรับการปฏิบัติทุกฝีก้าวของเขาต่อจากนี้ และยิ่งมีความหมายลึกซึ้ง ในการประลองฝีมือกับองค์กรลึกลับนั่นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ดังนั้น เขาหวังว่ากำลังของสำนักว่านหลงสามารถก้าวหน้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เป้าหมายการพัฒนากำลังทั้งหมดของสำนักว่านหลงในขั้นแรกสำหรับเขา คือสามารถตีเสมอกับทหารหน่วยกล้าตายทั้งหมดขององค์กรลึกลับนั่นได้
ส่วนผู้มีพระคุณลึกลับที่ยากจะคาดเดานั่น เย่เฉินตั้งใจจะเก็บเขาไว้ให้ตัวเอง ใช้กำลังของตัวเองเอาชนะเขาให้ย่อยยับไปเลย
ว่านพั่วจวินรีบบอกทันที : “คุณเย่วางใจได้ครับ ในงบประมาณการสร้างขั้นพื้นฐานขณะนี้ งบประมาณเกิน 60% ล้วนให้งานก่อสร้างใต้ดิน และงานก่อสร้างใต้ดินในอนาคต ไม่เพียงแต่สามารถตอบสนองชีวิตของพนักงาน และการฝากของ ยังสามารถแบกรับภาระการฝึกซ้อมประจำวันที่จำเป็นส่วนใหญ่ได้ ในขณะเดียวกันเราจะสร้างระบบพลังงานสำรองรวมทั้งเก็บพลังงานที่ปลอดภัยไว้ใต้ดิน ซึ่งเพียงพอที่จะรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันส่วนใหญ่ได้อย่างแน่นอนครับ”
ระหว่างที่พูด อุปกรณ์ติดตั้งลิฟต์ที่อยู่ข้างใต้สิ่งปลูกสร้างทรงลูกบาศก์นั้น ยกกรงเหล็กทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นมา
ที่น่าสนใจคือ กรงเหล็กนี้มีสองชั้น ชั้นด้านบนมีคนยืนอยู่ ชั้นด้านล่างมีรถรางจอดอยู่คันหนึ่ง
หลังจากรอให้กรงเหล็กหยุดนิ่ง ผู้ชายที่สวมหมวกกันภัยอยู่หลายสิบกิโลกรัมที่ยืนอยู่ชั้นบนเดินออกจากข้างใน แล้วเดินมาที่ชั้นหนึ่งจากบันไดชั้นสอง
ส่วนคนงานที่คอยอยู่ชั้นแรก เดินเข้าไปในกรงเหล็กชั้นล่างทันที ลากเชือกที่ตรึงรถรางที่บรรทุกก้อนกรวดไว้เต็ม จากนั้นลากรถรางไปตามรางรถไฟไปลานขนสินค้าที่อยู่ห่างหลายร้อยเมตร และอีกด้านหนึ่ง คนงานดันรถรางเปล่า ๆ ท่อนหนึ่งเข้าไปในกรงเหล็ก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...