ทั้งเจ็ดคนนี้ตั้งแต่เดินทางมาจนถึงตอนนี้ ก็ร้อนรนกระวนกระวายอยู่ตลอด เพราะพวกเขารู้ว่าพิษในร่างกายของตัวเองนั้นจะกำเริบในอีกหกวัน หากในหกวันนี้ไม่ได้ยาแก้พิษมา พวกเขาทั้งเจ็ดคนก็ต้องตาย
ทว่า ก่อนหน้านั้นเย่เฉินได้รับปากว่าจะกำจัดพิษในร่างกายของพวกเขาออกให้ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พบเจอกับเย่เฉิน ว่านพั่วจวินก็พาตัวพวกเขามาที่ซีเรีย ดังนั้นพวกเขาก็จึงยิ่งร้อนรนมากขึ้นไปอีก
จนเมื่อเดินเข้ามาที่ในห้องประชุมนี้ ทันทีที่เห็นเย่เฉิน ทั้งเจ็ดคนก็ราวกับเห็นผู้ที่จะช่วยชีวิตในที่สุด
ดังนั้น คนที่อยู่ตรงหน้าสุดเมื่อเห็นเย่เฉิน ก็พูดขึ้นอย่างดีอกดีใจว่า “คุณ……คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ!”
เย่เฉินพยักหน้าให้เล็กน้อย แล้วชี้ไปยังที่นั่งที่ว่างตรงหน้า พูดด้วยรอยยิ้ม“พวกคุณนั่งลงก่อน มีบางเรื่องที่อยากจะทำความเข้าใจกับพวกคุณให้มากขึ้นหน่อย”
“ไม่มีปัญหา!”คนคนนั้นตอบกลับในทันที แต่ท่าทียังคงไม่สบายใจเล็กน้อย
เขากลัวว่าเย่เฉินจะไม่คิดช่วยพวกเขากำจัดพิษออกให้จริงๆ แต่หลอกถามเอาข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขารู้ในช่วงสองสามวันนี้จนหมดจด จากนั้นก็ปล่อยพวกเขาไปตามยถากรรม
เย่เฉินเองก็มองออกถึงความกังวลและร้อนรนจากท่าทีของพวกเขา ก็จึงยกยิ้มให้ แล้วเดินเข้าไปหาตบไปที่บ่าของพวกเขาคนละที จากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นว่า“พวกคุณกังวลกลัวว่าผมจะไม่ทำตามที่รับปากว่าจะกำจัดพิษในร่างกายออกให้ใช่ไหม?”
ทั้งเจ็ดคนมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะตอบออกไป
คนที่อยู่คนแรกรวบรวมความกล้าแล้วพยักหน้ารับ คนที่เหลือก็ถึงกล้าที่จะพยักหน้ารับตามเขา
เย่เฉินยิ้มอย่างขบขัน แล้วกล่าว“ เป็นเรื่องปกติที่จะเป็นกังวล แต่ตอนนี้ไม่ต้องห่วง พิษในร่างกายของพวกคุณ ได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว !”
ทำเอาทุกคนต่างมีใบหน้าที่ตกตะลึงกันเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เข้าใจ พิษที่ยังสัมผัสได้เมื่อครู่ มันได้จางหายไปตั้งแต่ตอนไหนกัน
ชายคนแรกนั้นหัวสมองค่อนข้างไวเล็กน้อย เขาจำได้ว่าเมื่อครู่เย่เฉินตบบ่าตัวเองไป ก็จึงเอ่ยถามไปตามสัญชาตญาณ“หรือว่า……หรือว่าที่คุณตบบ่าเราไปเมื่อกี้นี้ ก็ช่วยเรากำจัดพิษออกไปได้แล้ว?”
เย่เฉินพยักหน้าให้
ชายคนนั้นถามด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ“พิษชนิดนี้ไม่มีทางที่จะกำจัดออกได้ คุณ……คุณทำมันได้ยังไง?!”
เย่เฉินยกยิ้มแล้วกล่าว“เหตุผลที่ไม่สามารถจะกำจัดออกไปได้นั้น เพราะที่อยู่ในร่างกายของพวกคุณไม่ใช่พิษแท้ แต่เป็นเพียงพลังบางอย่างที่พวกคุณควบคุมมันไม่ได้เท่านั้น ในเมื่อพวกคุณควบคุมมันไม่ได้ ก็จึงถูกมันควบคุมแทน ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...