ดังนั้น เรื่องที่ไม่มีโอกาสจะเป็นไปได้เลยแบบนี้ นานวันเข้าก็ไม่มีใครคิดที่จะทำมันอีก
แต่หากเกิดเรื่องอย่างที่เย่เฉินพูดขึ้นมาจริงๆ พิษที่อยู่ในร่างกายถูกกำจัดออกไปจนสิ้นซาก พวกเขาก็คงทำแบบเดียวกันกับทหารหน่วยกล้าตาย ลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างเต็มกำลัง
หลังจากที่เห็นท่าทีของทุกคน เย่เฉินก็พยักหน้าให้อย่างพึงพอใจ แล้วพูดขึ้นมา“ขุนพลหัวเมืองก็ต้องใช้ยาแก้พิษอยู่ตลอดไหม ?”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อน”ทหารม้ากล้าคนแรกพูดขึ้นมา“ขุนพลหัวเมืองเป็นคนลึกลับ และเก็บเนื้อเก็บตัว จะใช้ยาแก้พิษเหมือนเราหรือไม่นั้น เราเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
เย่เฉินถามต่อ“แล้วทุกครั้งที่ยาแก้พิษนั้นส่งไปถึงมีวิธีการแจกจ่ายยังไงให้กับพวกคุณและเหล่าทหารหน่วยกล้าตาย ?”
คนผู้นั้นพูดอธิบายว่า“ทุกครั้งที่ยาแก้พิษนั้นถูกส่งมา จะมีขุนพลหัวเมืองกับผู้ที่รับผิดชอบลำเลียงเป็นคนส่งมอบให้กันเองกับมือ ยาแก้พิษนั้นบรรจุเป็นสิบชิ้น ห่อหุ้มด้วยกระดาษไขกันความชื้น จากนั้นก็ใช้ขี้ผึ้งปิดผนึกแล้วตรีตราประทับ ทุกครั้งที่ยาแก้พิษถูกส่งมา ขุนพลหัวเมืองจะเป็นคนตรวจเช็กการบรรจุหีบห่อนั้นเอง หลังจากที่เช็กแล้วว่าไม่มีปัญหาใดๆ ก็จะส่งยาแก้พิษเหล่านี้ให้กับองครักษ์คนสนิทของเขา จากนั้นองครักษ์คนสนิทก็จะมาแจกจ่ายมันให้กับทหารม้ากล้าอย่างพวกเราด้วยตัวเอง”
พูดจบ เขาก็พูดต่อ“ในตอนที่แจกจ่ายยาแก้พิษนั้น พวกเราจะเข้าแถวตามโครงสร้างภายในขององค์กร เพื่อรับยาแก้พิษ แล้วหลังจากที่รับยาแก้พิษมา ก็ต้องกินยานั้นทันที ไม่สามารถจะแอบเอายาแก้พิษนั้นออกไปได้ ”
“ถูกต้อง”คนผู้นั้นพยักหน้าแล้วกล่าว “ ทุกขั้นตอนนั้นเข้มงวดอย่างมาก ”
เย่เฉินถามต่อ“ในความรู้สึกของคุณ ยาแก้พิษนั้นมีคุณสมบัติพิเศษที่จะปลอมแปลงยังไงได้?”
“อันนี้ก็……”คนผู้นั้นลังเลอยู่ชั่วครู่ แล้วก็จึงพูดขึ้นว่า“ผมเองก็ไม่มั่นใจว่ามีการป้องกันการปลอมแปลงยังไง แม้ยาทุกหีบห่อจะแกะมันต่อหน้าพวกเรา แล้วแจกจ่ายให้ แต่ขี้ผึ้งที่ปิดผนึกบนกระดาษไขนั้น ทุกครั้งจะมีการหลอมขึ้นใหม่ คุณเองก็รู้ ของแบบนั้นเมื่อผ่านความร้อน ลวดลายเดิมที่เคยมีอยู่ก็จะหายไป ดังนั้นผมเองก็ไม่รู้ว่าขี้ผึ้งที่ปิดผนึกเดิมนั้น หน้าตาเป็นยังไง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...