เมื่อเห็นเย่เฉิน หล่างหงจวินรู้สึกประหลาดใจมาก พูดอย่างตื่นเต้น“คุณเย่ คุณมาที่ซีเรียได้ยังไง ?”
เย่เฉินยกยิ้มแล้วกล่าว“ผมมีธุระนิดหน่อย เลยแวะมาดูเฮียหล่างด้วย อยู่ที่นี่พอจะปรับตัวได้บ้างหรือยัง?”
หล่างหงจวินพูดด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ“ตั้งแต่มาที่นี่ รู้สึกผ่อนคลายและสดชื่นเป็นอย่างมาก แต่ว่าน่าเสียดายงานที่ต้องทำยังต้องรอให้อุปกรณ์เข้าที่ซะก่อน ดังนั้นก็จึงยังลงมือทำอะไรไม่ได้มาก ”
พูดจบ เขาก็พูดต่อ“ผมได้ทำรายการอุปกรณ์ให้กับประมุขว่านไปแล้ว เขาไม่มีส่วนลดอะไรให้ และได้ทำการจัดซื้อไปเรียบร้อย ที่ผมต้องการส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์พื้นฐานทั่วไปที่เกี่ยวกับการสื่อสารภาคพลเรือนที่ดีที่สุดในโลก รออุปกรณ์เหล่านี้มาถึงที่ซีเรีย ผมตั้งใจว่าจะสร้างระบบสื่อสารแบบเข้ารหัสที่สามารถครอบคลุมไปทั่วฐานที่มั่นทั้งหมด ในระหว่างนี้ ก็จะสร้างรหัสลับอัลกอริทึมขึ้นมา รอดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศก็สามารถนำเข้าข้อมูลอัลกอริทึมนี้ได้เลย”
เย่เฉินถามอย่างใคร่รู้“เฮียหล่าง แล้วดาวเทียมของเราเองจะขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เมื่อไร?”
หล่างหงจวินอธิบาย“ช่วงนี้ลูกน้องของประมุขว่าน ได้ดำเนินการผ่านบริษัทเปลือกที่จดทะเบียนในพื้นที่นอกชายฝั่ง สั่งซื้อดาวเทียมสื่อสารจากบริษัทสื่อสารที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง แต่ดาวเทียมในปัจจุบันไม่ได้เป็นแบบประเภทพร้อมใช้งานเลย ต้องมีตารางการผลิต รอดาวเทียมทำการผลิตแล้ว เราจะส่งมันมาที่ซีเรียก่อน ถึงตอนนั้นผมจะแก้ไขบางอย่างของดาวเทียม จากนั้นก็ให้บริษัทที่ทำการปล่อยเอาไปปล่อย แต่ว่า การวิจัยและพัฒนาอัลกอริทึมกับการแก้ไขดาวเทียมนั้น เป็นงานที่หนักอยู่พอสมควร คาดว่าอย่างน้อยๆก็ต้องใช้เวลาสักปีหรือสองปีถึงจะทำมันสำเร็จได้”
เย่เฉินถามเขา“เฮียหล่าง งานมากมายขนาดนี้คุณทำมันคนเดียวไม่ได้แน่ หาลูกมือมาช่วยแล้วกัน หากสามารถสร้างทีมสื่อสารผ่านดาวเทียมได้ ประสิทธิภาพของมันจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน”
หล่างหงจวินตกใจกับคำพูดของเย่เฉิน เอ่ยพูดขึ้นมา“คุณเย่ หากจะซื้อบริษัทสื่อสารที่มีรากฐานเพียงพอ ก็น่าจะต้องใช้เงินกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญเป็นอย่างต่ำ การลงทุนนี้จะสูงเกินไปหรือเปล่า ผมกลัวจะทำผลกำไรไม่ได้ขนาดนั้น……”
เย่เฉินส่ายหน้าและกล่าว“ ผลกำไรไม่ใช่สิ่งสำคัญ วิธีการแก้ปัญหาความต้องการเร่งด่วนของเราต่างหากที่สำคัญที่สุด”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดต่อ“ ปัญหาสำคัญที่สุดของเราในตอนนี้คือข้อจำกัดของเวลา อย่าว่าแต่หนึ่งปี หนึ่งเดือน ต่อให้เป็นหนึ่งวัน หนึ่งชั่วโมง ก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่ เวลานั้นสำคัญกว่าเงินมาก”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...