เย่เฉินพยักหน้า และถามเขา“รากฐานของบริษัทนี้เป็นยังไงบ้าง?”
หล่างหงจวินกล่าว“พื้นฐานเทคโนโลยีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์นั้นดีมาก แต่หลายปีที่ต้องดำดิ่งลงนั้น เป็นเพราะทิศทางการตลาดที่ไม่ถูกต้อง ผู้รับผิดชอบตัดสินพลาดเรื่องทิศทางการพัฒนาตลาดสื่อสาร จากนั้นก็ทำธุรกิจตัวเองถึงทางตัน จึงต้องหันไปกินเงินเก่าแทน เปลี่ยนไปจัดหาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และสนับสนุนด้านเทคนิคกับบริษัทสื่อสารอื่นๆ”
เย่เฉินพูดอย่างยินดี“มันเหมาะกับเรามาก หากธุรกิจเขาดำเนินไปได้ด้วยดี และมีมูลค่าตลาดที่สูง เป็นเรื่องยากที่เราจะยึดมันมาได้ และหากได้มาแล้ว จุดอ่อนของธุรกิจก็จะโยงใยมาถึงเราอีกมากมาย แต่ตอนนี้เขาทำแค่อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และสนับสนุนด้านเทคนิค นี่มันก็ตรงความต้องการของเราเลยไม่ใช่เหรอ?เพราะเราก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำบริษัทสื่อสารรายใหม่ขึ้นมา เราแค่ต้องการจะสร้างเครือข่ายการสื่อสารของตัวเองโดยเร็วที่สุดเท่านั้น”
หล่างหงจวินพยักหน้าแล้วกล่าว“หากรวมเข้ากับสถานการณ์ของเรา มันเหมาะมากจริงๆ เทคโนโลยีหลายอย่างของบริษัทนี้ เราได้มาแล้วก็สามารถนำไปใช้ได้เลยในทันที และคนที่ยังเหลืออยู่ในบริษัทนี้ล้วนก็เป็นนักวิจัยทั้งนั้น แม้การตลาดจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่การพัฒนาและวิจัยนั้นมองข้ามไม่ได้เลย ”
เย่เฉินพูดอย่างไม่ลังเล“ถ้าอย่างนั้นก็มันแล้วกัน!เฮียหล่าง เตรียมตัวซะ เดินทางไปสหรัฐอเมริกาพร้อมกับผมเดี๋ยวนี้เลย!”
หล่างหงจวินพูดอย่างตื่นตกใจ“ไปสหรัฐอเมริกา ?คุณเย่ ผมเพิ่งจะมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน ยังมีเรื่องอีกมากที่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย ……”
เย่เฉินกล่าว“ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือจะซื้อบริษัทเก่าของคุณนี้ให้ได้โดยเร็วยังไง ถึงสหรัฐอเมริกาแล้ว คุณเข้าไปคุยเรื่องเทคโอเวอร์กับเจ้าของบริษัทนี้ คุณบอกว่ามูลค่าตลาดของมันน่าจะราวๆพันกว่าล้านเหรียญไม่ใช่เหรอ? ขอแค่เขายอมตกลง ผมให้ได้มากถึงสองพันล้านเหรียญ แต่จะตกลงกันที่ตัวเลขเท่าไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเฮียหล่างแล้ว”
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป เย่เฉินกับหล่างหงจวินก็เดินทางกลับมาที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกัน
เครื่องบินลงจอดที่พรอวิเดนซ์ก่อน รอเย่เฉินลงจากเครื่องแล้ว ก็ทำการนำเครื่องขึ้นอีกครั้ง โดยพาหล่างหงจวินกับหงห้า และเฉินจื๋อข่ายเดินทางไปซิลิคอนแวลลีย
ที่ให้หงห้ากับเฉินจื๋อข่ายเดินทางไปพร้อมกับหล่างหงจวินด้วยนั้น ก็เพื่อไปคุ้มกันหล่างหงจวิน เพราะไปเจรจาธุรกิจหลักพันล้านเหรียญ และไม่แน่ใจว่าที่สหรัฐอเมริกาเหมยอวี้เจินจะยังมีเพื่อนพ้องผู้สมรู้ร่วมคิดหลงเหลืออยู่ไหม มีสองคนนี้เดินทางไปด้วย เย่เฉินก็พอจะเบาใจได้บ้าง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...