ในตอนนี้ เรือสินค้าที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งหมื่นตัน กำลังแล่นด้วยความเร็วเต็มที่ในทะเล
เสียงของเรือในขณะที่ทำการแล่นนั้นดังกระหึ่ม พวกเขาไม่รู้สึกเลยสักนิด ว่าที่ด้านซ้ายของพวกเขา เหนือผิวน้ำ มีเงาดำเงาหนึ่งกำลังมุ่งตรงมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
และเงาดำเงานี้ ก็คือเย่เฉิน
และเพราะพลังปราณทิพย์ ที่ขาของเขาในตอนนี้ ก็ราวกับเหยียบเบาะลมที่มองไม่เห็นสองอัน ระยะห่างของฝ่าเท้ากับผิวน้ำนั้นประมาณสิบเซนติเมตรได้
ทุกการก้าวย่างของเย่เฉินบนคลื่นน้ำ จะก่อเกิดเป็นน้ำที่กระเซ็นเป็นฝอย หากเป็นตอนกลางวัน ไม่เพียงจะสะดุดตาอย่างมาก แต่หากมีคนพบเห็นเข้า ก็คงต้องอ้าปากค้าง
แต่ทว่า ในตอนนี้พื้นผิวน้ำนั้นมืดสนิท บวกกับชุดสีดำที่เขาสวมใส่ ก็ราวกับวิญญาณ ต่อให้ศัตรูที่มีประสาทรับรู้ดีแค่ไหน ก็ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ
ระยะห่างที่ขยับเข้าใกล้เรือมากขึ้นเรื่อยๆ เย่เฉินสามารถมองเห็นคนเฝ้ายามหลายคนที่ยืนอยู่ตรงดาดฟ้าและรอบๆกราบเรือพร้อมด้วยอาวุธครบมือ
เป็นเหมือนกับเรือบรรทุกสินค้าทั่วไป แม้เรือสินค้าลำนี้จะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่โตมาก แต่โครงสร้างก็คือโกดังสินค้าตั้งอยู่ที่ส่วนหน้าและส่วนกลางของเรือ และหอบังคับการก็อยู่ตรงท้ายเรือ
หอบังคับการ เป็นโครงสร้างส่วนบนของเรือสินค้า ห้องควบคุมการเดินเรือ พื้นที่ใช้สอยของลูกเรือล้วนรวมกันอยู่ที่นี่
คนเฝ้ายามของเรือในเวลานี้มีทั้งหมดหกคน สองคนอยู่ที่หัวเรือ และสองคนอยู่ที่กราบเรือส่วนกลางทั้งสองข้าง อีกสองคนอยู่ตรงรอบนอกของหอบังคับการชั้นบน
เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงนี้ไม่มีเรือลำอื่นที่มองเห็นได้ ดังนั้นยามรักษาการณ์ก็จึงหละหลวมอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงยืนประจำการกันอยู่ สองคนที่อยู่บริเวณท้ายเรือก็สุมหัวกันสูบบุหรี่อีกด้วย
เย่เฉินขบคิดชั่วครู่ แล้วเลือกขึ้นเรือทางท้ายเรือ แม้คนส่วนใหญ่จะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ แต่เพราะการทำงานของเครื่องยนต์และใบพัดของเรือทั้งลำก็อยู่ที่ตรงบริเวณท้ายเรือนี้ ดังนั้นสถานที่ตรงนี้ก็จึงอึกทึกอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้อีกฝ่ายจะมีพลังวิชาก็ไม่กลัวจะมีใครสังเกตเห็น
นี่ยังไม่เท่าไร เขาพบว่า แปดคนที่ตรงบริเวณชั้นสองนั้น กระจายอยู่กันในห้องเล็กๆสี่ห้อง สองคนต่อหนึ่งห้องราวกับเป็นห้องพักของลูกเรือ
และสองคนที่ตรงบริเวณชั้นสามนั้นห้องก็มีขนาดที่ใหญ่กว่า ขนาดของพื้นที่ห้องหนึ่งห้อง เทียบได้กับห้องพักของลูกเรือสามคน
ที่ทำเอาเย่เฉินคาดคิดไม่ถึงนั่นก็คือ สองคนที่อยู่ตรงชั้นสามในตอนนี้กำลังต่างอิงแอบแนบชิดกัน ทำกิจกรรมที่ออกแรงเรียกเหงื่อกันอย่างดุเดือด
เย่เฉินแอบคิด“ออกเรือทำภารกิจ ยังทำเรื่องน่าบัดสีกันบนเรือได้ คิดว่าผู้บัญชาการสูงสุดของเรือลำนี้ต้องเป็นหนึ่งในสองคนนี้แน่ๆ!”
ดังนั้น เขาจึงกระโดดข้ามราวบันไดตรงชั้นสาม เข้ามายังด้านในของพื้นที่พักผ่อนตรงหอบังคับการชั้นสาม

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...