เวลานี้ หวูดแตรของเรือได้ส่งออกไปอย่างแสบแก้วหู ในขณะเดียวกันความเร็วของเรือก็ค่อยๆ ช้าลงอย่างมาก เย่เฉินจึงตระหนักได้ว่า เรือใกล้จะเข้าฝั่งแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงนำยาแก้พิษของต้วนลี่เย่โยนกลับเข้าไปในตู้เสื้อผ้าทันที และสวมด้วยเสื้อคลุมสีดำของหนึ่งในนั้น หลังจากนั้นจึงกล่าวกับต้วนลี่เย่ว่า : "ฉันจะปลอมตัวเป็นผู้ช่วยของคุณ และจะไปเหมืองแร่ทองแดงด้วยกันกับคุณ คุณเคยส่งมอบกับพวกเขายังไง ครั้งนี้ก็ส่งมอบอย่างนั้น"
ต้วนลี่เย่พยักหน้าโดนไม่ต้องคิด : "น้อมรับคำสั่งครับ!"
พูดจบ เขาก็นำเสื้อคลุมสีดำมาหนึ่งตัว นำมันมาสวมอย่างชำนาญและคลุมศีรษะด้วยหมวกใบใหญ่
เย่เฉินเรียนรู้ที่จะทำเรียนแบบ ใช้หมวกของเสื้อคลุมสีดำนั้น นำมาคลุมศีรษะของตนเอง
เขาพบว่า หมวกของเสื้อคลุมสีดำนี้มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งเนื้อผ้าของหมวกยังเบาสบาย ถึงแม้ว่าหมวกจะปกคลุมใบหน้าทั้งหมด แต่ก็ไม่ปิดบังสายตาเลย
หลังจากนั้น เย่เฉินกับต้วนลี่เย่มาที่หน้าประตู เห็นนักบู๊คนนั้นยืนนิ่งราวกับไม้กระดาน จึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "ฟังให้ดีนะ นอกจากเราสองคนแล้ว ถ้าคนอื่นกล้าเข้ามาในห้องนี้ ก็ฆ่าได้เลยโดยไม่ต้องปรานี!"
อีกฝ่ายถูกจุดสังเกตทางจิตวิทยาของเย่เฉินควบคุม จึงพยักหน้าอย่างเคารพทันทีและกล่าวว่า : "น้อมรับคำสั่งครับ!"
......
เมื่อสองคนเดินออกมาจากในห้อง ด้านนอกก็เริ่มยุ่งเหยิงขึ้นมา
ทหารม้ากล้าส่วนใหญ่กลับขึ้นไปบนสะพานเพื่อทำหน้าที่ระวังการโจมตีจากศัตรู หลังจากที่เรือจอดอย่างมั่นคงแล้ว พวกเขาก็พากะลาสีเรือทั้งหมดเข้าไปที่ห้องเครื่องยนต์ เพื่อที่กะลาสีเรือเหล่านี้จะได้ไม่สอดแนมเบาะแสใดๆ
แต่ว่าเรือในเวลานี้ ห่างจากท่าเรือเพียงหนึ่งถึงสองกิโลเมตรเท่านั้น
เย่เฉินกับต้วนลี่เย่เดินออกจากสะพานโดยตรง และขึ้นมาที่ดาดฟ้าของเรือ
เย่เฉินฟังออก ว่าน้ำเสียงของคนนี้เต็มไปด้วยความประหม่าและวิตกกังวล
เมื่อมองไปที่คนอื่นที่อยู่ข้างๆ แต่ละคนก็ดูประหม่าเช่นกัน
เย่เฉินคาดเดาว่า น่าจะเป็นเพราะการพ่ายแพ้ในเบอร์เกนครั้งนั้นเมื่อสองสามวันก่อน จึงรู้สึกกระวนกระวายใจ
อย่างไรเสีย หลินหว่านเอ๋อร์คนที่เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพระคุณ แต่ผลสุดท้ายคนของพวกเขาทำภารกิจที่ลำบากและหนักหนานี้ไม่สำเร็จ
และตอนนี้ยังถึงเวลาส่งมอบยาแก้พิษอย่างพอดิบพอดี พวกเขาเกรงว่าผู้มีพระคุณจะใช้วิธีการซ้ำกันกับเมื่อ 20 ปีก่อน และนำคนทั้งหมดในฐานทัพของพวกเขา ต้องตกที่นั่งลำบาก
เมื่อเผชิญกับการเคารพนบนอบและความกังวลของสองสามคนนั้น ต้วนลี่เย่เพียงแค่ทำเสียงอืมอย่างเย็นชาเท่านั้น และไม่แม้แต่จะมองคนเหล่านั้น เดินตรงไปที่รถเก๋งสามคันนั้นทันที

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...