เย่เฉินถามเขา“นี่คงเป็นช่องทางเดียวของทหารหน่วยกล้าตายที่จะออกไปยังโลกภายนอกได้ใช่ไหม?”
“ถูกต้องครับ”หลี่เนี่ยนจงพยักหน้าและกล่าว“ทหารหน่วยกล้าตายสามารถเข้าออกเพียงช่องทางนี้เท่านั้น แต่ฐานของพวกเขายังมีท่อเหล็กระบายอากาศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ท่อเหล่านั้นเส้นผ่าศูนย์กลางภายในอยู่ที่สิบเอ็ดเซนติเมตร คนไม่สามารถจะออกไปได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางหนีไปได้ ต่อให้พวกเขาจะเปิดประตูด้านล่างนี้ได้ ก็ไม่สามารถจะปีนขึ้นไปบนหลุมที่สูงหนึ่งเมตรได้ หรือต่อให้จะปืนขึ้นไปได้ กรงลิฟต์นี้ก็ถูกปิดไว้ที่ตรงปากหลุมอย่างแน่นหนา พวกเขาไม่มีทางจะออกไปได้ ดังนั้นการเปิดใช้งานของที่นี่ที่มีมานานหลายปี ยังไม่เคยพบการแหกคุกเลยแม้แต่ครั้งเดียว”
พูดจบ หลี่เนี่ยนจงก็พูดต่อ“แน่นอนว่า พิษในร่างกายของพวกเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน ต่อให้พวกเขาจะพยายามหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ ไม่มียาแก้พิษ ภายในหนึ่งอาทิตย์ก็ต้องตายเหมือนกัน”
เย่เฉินพยักหน้า รู้สึกเวทนากับชีวิตความเป็นอยู่ของทหารหน่วยกล้าตายอย่างมาก
ในชั้นใต้ดินกว่าหกร้อยเมตรนี้ ไม่เคยได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ชีวิตแบบนี้จะทุกข์ทรมานแค่ไหนกัน?
อย่างที่ห้าสี่เจ็ดบอก ลูกของทหารหน่วยกล้าตายจำนวนมากเกิดที่นี่ ตั้งแต่เกิดจนอายุยี่สิบก็ต้องทำงานรับใช้องค์กร ในช่วงอายุยี่สิบปีนี้ พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะได้เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลย
คิดมาถึงตรงนี้ ต่อไปจะแก้ปัญหานี้ของทหารหน่วยกล้าตายและครอบครัวยังไง ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกัน
เย่เฉินย่อมไม่อยากให้พวกเขาอาศัยอยู่ในใต้ดินที่ลึกกว่าหกร้อยเมตรนี้ต่อไปอีก แต่เหมืองทองแดงแห่งนี้ในสายตาของคนภายนอกเป็นขนาดของคนจำนวนหลักร้อย หากให้ทุกคนไปอยู่ที่โลกด้านนอกกันหมด อาคารที่มีด้านนอกก็ไม่เพียงพอสำหรับคนจำนวนมากขนาดนี้
ในตอนนี้เอง กรงลิฟต์ก็ได้มาถึงที่ชั้นล่างสุดแล้ว
หลังจากที่เดินออกมาจากกรงลิฟต์ เป็นพื้นที่ข้ามฟากขนาดราวๆสี่สิบตารางเมตร พื้นที่ข้ามฟากนี้ ด้านหลังเชื่อมต่อกับกรงลิฟต์ ส่วนด้านหน้าเชื่อมต่อกับประตูใหญ่บานสุดท้ายที่กักขังทหารหน่วยกล้าตายเอาไว้
ในตอนนี้เอง จู่ๆคนกว่าหลายพันคนก็คุกเข่าลง แล้วพูดตะโกนด้วยความเคารพ“ยินดีต้อนรับท่านทูตพิเศษ!”
เวลานี้ ทหารหน่วยกล้าตายที่คุกเข่ากับพื้นให้กับท่านทูตพิเศษ และครอบครัวของพวกเขาไม่รู้เลยว่า ชายชุดคลุมสีดำที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ทูตพิเศษที่พวกเขาคิดอีกต่อไป
ตามกฎระเบียบ ในวันที่มีการแจกจ่ายยาแก้พิษ ทหารหน่วยกล้าตายและครอบครัวทุกคนจะต้องมาเข้าแถวรอกันอยู่ในพื้นที่ลานขนาดหมื่นกว่าตารางเมตรนี้ และเมื่อเจอกับทูตพิเศษ ก็ต้องคุกเข่าลงเพื่อต้อนรับ
เมื่อเย่เฉินเห็นคนจำนวนมากคุกเข่าลงกับพื้น ก็รู้สึกตกใจกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...