เด็กๆที่อายุน้อยกว่าสามขวบ มีแม่คอยอยู่เป็นเพื่อน ส่วนเด็กที่อายุสามขวบขึ้นไป ก็อยู่กับพี่น้องของตัวเอง พวกเด็กๆจูงมือกันขึ้นมาถึงบนพื้นดินที่ละกลุ่ม
บนดาดฟ้าของตึกสำนักงานเหมืองแร่ทองแดง พวกเด็กๆที่อายุไม่ครบสิบแปดปีเป็นจำนวนเจ็ดร้อยกว่าคน สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน อาการที่แสดงออกมานั้นดูตื่นเต้นอีกทั้งยังจ้องมองเส้นขอบฟ้าทางฝั่งตะวันออกด้วยความรอคอยอีกด้วย
ช่วงเวลานั้นที่ทางฝั่งตะวันออกเริ่มมีสีขาวๆเหมือนท้องปลาลอยขึ้นมา เด็กๆทุกคนก็ตื่นเต้นกันอย่างไม่แม้แต่จะกระพริบตา กลัวว่าจะพลาดกับการเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต
ที่น่าสงสารก็คือ เด็กเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะได้ยินผู้ใหญ่เคยพูดกันถึงพระอาทิตย์มาตั้งแต่เด็ก แต่ใครก็ไม่รู้ว่าพระอาทิตย์นั้นเป็นอย่างไร
เพราะถึงอย่างไร สถานที่พักอาศัยของหน่วยทหารกล้าตาย ก็ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวกับพระอาทิตย์เลยแม้แต่รูปเดียว
เด็กๆบางคนจะอย่างไรก็เชื่อในสิ่งที่พ่อแม่ของเขาพูดไว้ว่าหลังจากที่ลูกไฟนั้นสว่างจ้าตาขึ้นไปอยู่บนฟ้า ทุกสิ่งที่บนโลกก็จะถูกมันส่องแสงจนสว่างขึ้นไปด้วย
พวกเด็กๆตั้งแต่เกิดมา เคยเห็นเพียงแค่แสงไฟ ดังนั้นในความทรงจำของพวกเขา แสงไฟอย่างมากสุดก็สามารถสว่างได้เพียงแค่ในห้องๆหนึ่งเท่านั้น จะส่องให้ทุกสิ่งบนโลกนี้สว่างขึ้นได้อย่างไร
ดังนั้นในเวลานี้ พวกเขาล้วนแต่กำลังรอคอยที่จะเห็นประจักษ์พยานกับความมหัศจรรย์นี้
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
สีของท้องฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้น เห็นเมฆที่มีสีอื่นแซมอยู่บนทองฟ้าเลือนรางไป
ท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดคิด ทำให้พวกเด็กๆทุกคนมองดูกันอย่างตกตะลึง ทุกคนล้วนแต่จ้องมองเมฆที่ลอยเคลื่อนตัวอย่างต่อเนื่องด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาด ทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ พวกเขาไม่เคยได้ชื่นชมมาก่อนเลย
จากความสว่างที่ยิ่งสว่างมากขึ้น มองไปนั้น ทุกสิ่งที่อยู่บนพื้นดินรอบๆ และทะเลที่มีคลื่นกว้างใหญ่และงดงามก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
และยืนอยู่บนดาดฟ้า ก็สามารถมองทะเลเห็นจากข้างบนลงมาได้อย่างง่ายดาย
ส่วนโค้งของพระอาทิตย์ที่ขึ้นมานั้นก็ยิ่งใหญ่มากขึ้น แสงสีทองย้อมสีทั้งขอบฟ้า และแม้แต่ท้องทะเลให้กลายเป็นสีทอง
แสงอาทิตย์ที่สวยงามสว่างไสวท่ามกลางท้องฟ้า และส่องแสงเป็นประกายอยู่บนผืนท้องทะเล!
พระอาทิตย์ที่ลอยขึ้นสูง และผู้ปกครองที่คอยดูแลเด็กๆเหล่านั้น ล้วนแต่มองกันด้วยความตกตะลึง
ถึงแม้ว่าแสงนั้นจะยิ่งทำให้แสบตา แต่กลับไม่มีใครทำใจที่จะกระพริบตาลงได้เลย
บรรดาแม่ๆของเด็กเล็กเหล่านั้น และยังมีเด็กที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น จับกลุ่มกับเพื่อนสนิทของตัวเองด้วยจิตใต้สำนึก พวกเขาหรือพวกเธออยู่กันเป็นกลุ่ม3-5คน ล้วนแต่น้ำตาไหลออกมาเต็มหน้าอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
ทัศนียภาพตรงหน้าในตอนนี้ ให้พวกเขาคิดที่จะไปประจบสอพลออยู่ที่ใต้ดินอีกเป็นยี่สิบปี ก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลแบบนี้ออกมาได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...