แต่ว่า เย่เฉินย่อมบอกความจริงนี้ไม่ได้ ก็จึงพูดด้วยรอยยิ้ม“คุณพูดถูกที่รัก แม่เราให้ความสำคัญกับครอบครัวจริงๆ ”
เซียวชูหรันพูดด้วยรอยยิ้ม“เราออกเดินทางกันพรุ่งนี้เช้า ใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงก็ถึงบ้าน ถึงตอนนั้นชีวิตที่มีความสุขของพ่อก็น่าจะสิ้นสุดลง ”
ในขณะที่เซียวชูหรันกำลังเก็บกระเป๋า เย่เฉินก็แยกตัวมาที่ระเบียงของห้องเพรสซิเด้นท์สวีท โทรหาป้าหลี่ที่อยู่แคนาดา
ทันทีที่รับสาย ป้าหลี่ก็เอ่ยเรียกด้วยความเคารพ “คุณชาย!”
เย่เฉินอยากจะบอกป้าหลี่ว่าไม่ต้องเรียกตัวเองแบบนั้น แต่เมื่อมาขบคิด ก็จึงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป
เขารู้ ต่อให้ตัวเองจะบอกป้าหลี่ว่าไม่ต้องเรียกตัวเองว่าคุณชาย แต่ก็เปลี่ยนแปลงความรู้สึกในใจของป้าหลี่ไม่ได้ ที่ตัวเองนั้นเป็นคุณชายของตระกูลเย่จริงๆ
บวกกับเธอเองก็คิดมาโดยตลอด ว่าตระกูลเย่นั้นช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แล้วยังให้เธอได้มาใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่แคนาดา ในใจของเธอ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนรับใช้ของตระกูลเย่
ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักตัวตนของเย่เฉิน เธอจะฝืนเรียกชื่อของเย่เฉินตรงๆ แต่ในตอนที่ไม่มีคนอื่น เธอก็จะเรียกเย่เฉินว่าคุณชายอย่างเต็มปากเต็มคำ
ดังนั้น เย่เฉินก็จึงไม่หยิบยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก แต่พูดด้วยรอยยิ้ม“ป้าหลี่ หลักสูตรการเรียนของชูหรันในสหรัฐอเมริกา วันนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว เราตั้งใจจะเดินทางกลับเมืองจินหลิงในวันพรุ่งนี้ ป้ากับเสี่ยวเฟิน และคลอเดียก็เตรียมตัวด้วยแล้วกัน พรุ่งนี้เรามาเจอกันที่นครนิวยอร์กนะครับ”
เมื่อป้าหลี่ได้ยินคำนี้ อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างยินดี“เยี่ยมไปเลยค่ะคุณชาย ช่วงนี้ เสี่ยวเฟินก็เอาแต่พูดถึงเมืองจินหลิงกับป้า ป้าเองก็เฝ้าแต่คิดกังวลถึงแต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของคุณ ในใจคิดอยากจะกลับบ้านเต็มทนแล้ว ”
พูดจบ ป้าหลี่ก็พูดต่อ“แต่ว่า เรื่องเดียวที่เธอน่าจะยังกังวลอยู่ ก็คงเป็นเรื่องหลุมฝังศพของพ่อแม่และน้องชาย เสี่ยวเฟินรับปากเธอ ในทุกๆปีของการปิดเทอมภาคฤดูร้อน จะกลับมาไหว้พ่อแม่เป็นเพื่อนเธอ เธอก็ไม่มีอะไรให้เป็นกังวลแล้ว”
“ครับ”เมื่อเย่เฉินได้ยินคำนี้ ก็ถึงได้รู้สึกเบาใจขึ้นมา
แม้เขากับคลอเดียจะไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันเท่าไร แต่เรื่องราวที่หญิงสาวได้พบเจอมานั้นทำเขารู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนในครอบครัวต้องมาตายด้วยน้ำมือของญาติ แต่เธอที่อายุสิบแปดปี กลับต้องมาแบกรับกับความอัปยศนี้ ทำแผลปลอมไว้ที่ใบหน้าให้ผู้คนได้เห็น สติปัญญากับความอดทนอดกลั้นนี้ เด็กสาวอายุสิบแปดทั่วไปทำมันไม่ได้แน่
โชคดีที่ตัวเองได้ช่วยคลอเดียแก้แค้น ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคนนี้คงไม่สามารถจะใช้ชีวิตในแบบของคนปรกติทั่วไปได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...