แต่ภายในใจของเอมิลี่กลับคิดว่า“โอ้พระเจ้า……เฟ่ยเข่อซินตั้งใจเดินทางมาที่โรงเรียนดีไซน์โรดไอแลนด์ ก็เพื่อมาร่วมแสดงความยินดีกับการสำเร็จการศึกษาของเซียวชูหรัน……สามีของเซียวชูหรันคนนี้ เป็นใครมาจากไหนกันเนี่ย……”
แมทธิว ปีเตอร์สันเอ่ยถามเฟ่ยเข่อซินอย่างไม่ตั้งใจ“คุณหนูเฟ่ย คุณ……คุณรู้จักเขาเหรอครับ?”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า แล้วพูดเสียงเรียบ“คุณคนนี้คืออาจารย์เย่ ที่ฉันสามารถเป็นผู้นำของตระกูลเฟ่ยได้ ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์เย่”
“นี่มัน……”แมทธิว ปีเตอร์สันยิ่งหวาดหวั่นมากขึ้นไปอีก รีบปาดเหงื่อบนหน้าผากออก หันมองไปยังเย่เฉิน ทำใจดีสู้เสือแล้วกล่าว“ที่แท้ก็อาจารย์เย่นี่เอง!ได้รู้จักท่าน ช่างโชคดียิ่งนัก!”
คิ้วเย่เฉินเลิกขึ้น“เมื่อกี้ยังบอกว่าผมเป็นพวกต้มตุ๋นอยู่เลย ตอนนี้พูดว่าโชคดียิ่งนักแล้วเหรอ คุณปีเตอร์สันช่างกลับกลอกจริงๆ”
แมทธิว ปีเตอร์สันตกใจจนเสียวสันหลังวาบ รีบโบกมืออธิบาย“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ผู้น้อยไม่ได้สงสัยในตัวคุณเลยสักนิด !”
พูดจบ เขาก็รีบชี้ไปยังเอมิลี่ที่อยู่ข้างๆอย่างร้อนรน พูดโพล่งออกมา“เป็นเอมิลี่ที่มีตาแต่หามีแวว สงสัยในตัวตนของคุณ ผมเองก็ถูกเธอชี้นำเหมือนกัน……”
เอมิลี่หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นตกใจอย่างฉันพลัน เธอไม่คิดว่า เจ้านายจะโยนความผิดมาที่ตัวเองแบบนี้
ขณะที่เธอกำลังจะพูดอธิบาย จู่ๆก็เห็นว่าแมทธิว ปีเตอร์สันมองตาขวางอย่างดุดันมาที่ตัวเอง ดังนั้นก็จึงพูดออกไปอย่างหวาดกลัวว่า“ขอโทษคุณเย่ด้วย ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ได้โปรดอย่าเก็บมันมาใส่ใจเลยนะคะ……”
เมื่อเย่เฉินเห็นแมทธิว ปีเตอร์สันให้เอมิลี่ออกมารับผิดเอง ในใจก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใดๆ จึงเอ่ยพูดขึ้นว่า“ผมเอง ก็ไม่ใช่คนที่ชอบจะไปถือสาหาความกับใคร”
พูดจบ เธอก็หันไปหาเซียวชูหรัน แล้วพูดขอร้อง “ชูหรัน ได้โปรดเห็นแก่ที่ฉันทำไปโดยไม่ทันคิด ยกโทษให้ฉันสักครั้งเถอะนะ……”
เซียวชูหรันยังไม่ได้พูดอะไร เฟ่ยเข่อซินที่อยู่ข้างๆก็ชิงพูดขึ้นก่อน“คุณเซียวเป็นเพื่อนรักของฉัน และคุณเย่ ก็เป็นผู้มีพระคุณอย่างยิ่งของฉัน คุณกลับกล้าพูดจาไร้มารยาทแบบนี้กับพวกเขา!วันนี้ต่อให้คุณเย่กับคุณเซียวจะยกโทษให้ แต่ฉันไม่ยกโทษให้อย่างเด็ดขาด ”
พูดจบ เฟ่ยเข่อซินก็หันมองไปยังเอมิลี่ พูดอย่างเฉยชา“ฉันว่า คนแบบนี้ ไม่สมควรให้อยู่ในวงการออกแบบอีกต่อไป!ฉันจะเสนอเรื่องนี้กับทางสมาพันธ์นักออกแบบนานาชาติ ให้ขึ้นบัญชีดำนักออกแบบที่มีพฤติการณ์ไร้ซึ่งศีลธรรมอย่างเธอในวงการนี้อย่างเด็ดขาด!”
เมื่อเอมิลี่ได้ยินคำนี้ ก็แทบจะเป็นลมล้มพับไปในทันที
วันนี้เธอเพิ่งจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหุ้นส่วนอาวุโส จากอนาคตที่สดใสรุ่งเรือง หากเฟ่ยเข่อซินจะขึ้นบัญชีดำเธอจริงๆ บริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ก็จะไม่จ้างงานเธออีก และบริษัทที่มีอำนาจเหล่านั้น ก็ไม่มีทางที่จะมาเสี่ยงสร้างความขุ่นเคืองใจให้เฟ่ยเข่อซินเพื่อมาร่วมงานกับเธอเป็นแน่

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...