อาชีพการออกแบบ เดิมทีก็เป็นอาชีพบริการแบบหนึ่งอยู่แล้ว ถ้าหากคิดจะออกแบบอาณาเขตให้อยู่ในระดับความสูงที่แน่นอน ก็จะต้องบริการลูกค้าระดับสูง หากเสียลูกค้าระดับสูงไป ก็จะจมอยู่ในระดับล่างของอาชีพการออกแบบทันที
สำหรับส่วนตัว หากมีลูกค้าระดับสูง นั่นก็ออกแบบเคหะสถานได้อย่างสบายๆ และเป็นรายการใหญ่ที่ตัวเลขเป็นหลักล้านหรือแม้กระทั่งสิบล้านดอลลาร์ด้วยเช่นกัน แต่หากสูญเสียกลุ่มลูกค้าระดับสูงไป ไม่ต้องพูดถึงเคหะสถาน คฤหาสน์ ที่ถึงร้อยล้านเลย ต่อให้เป็นการออกแบบบ้านพักทั่วๆไปที่ขนาดสองร้อยตารางเมตร เกรงว่ายากที่จะได้รับมาเสียด้วยซ้ำ;
สำหรับทางธุรกิจ ถ้าหากมีผู้รับจ้างระดับสูง รับรายการออกแบบล้วนแต่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ แม้กระทั่งสนามกีฬาที่จัดการแข่งขันขนาดใหญ่ แต่หากสูญเสียผู้รับจ้างระดับสูงไป ต่อให้อยากจะได้รับการออกแบบที่เป็นที่พักขนาดเล็กๆก็เป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน
และยิ่งไปกว่านั้น เอมิลี่ก็เข้าใจสถานการณ์ของตัวเองเป็นอย่างดี เธอไม่ได้มีพรสวรรค์การออกแบบที่ดีเลิศอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ สามารถปีนมาอยู่ในระดับสูงอย่างวันนี้ได้ ล้วนแต่อาศัยการขายร่างกายของตัวเองแลกมาทั้งนั้น ถ้าหากถูกลูกค้าระดับสูงปิดกั้นจริงๆ ความสามารถตรงจุดนั้นของเธอ ต่อให้ไปบริษัทออกแบบขนาดเล็ก หรือตัวเองสร้างสตูดิโอขึ้นมา เกรงว่าจะหารายได้ยากมากเช่นกัน
เดิมทีเอมิลี่สามารถได้รับเงินเดือนต่อปีได้ถึงสามสี่ล้านดอลลาร์ แต่หากถูกปิดกั้นจริงๆ ไม่สามารถอยู่ในอาชีพออกแบบได้อีกต่อไป อาชีพระดับสูงอาชีพอื่นก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีที่ให้เธอพออาศัยให้อยู่รอดได้เช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น ปีหนึ่งเธออยากจะหารายได้สามสี่หมื่นดอลลาร์ก็ยังเป็นเรื่องยากอีกด้วย!
สิ่งที่แตกต่างกันมากนี้ทำให้เธอรู้สึกมาเสียใจภายหลัง จึงคุกเข่าลงตรงหน้าเย่เฉินและเฟ่ยเข่อซินโดยไม่ต้องคิด พลางเอ่ยขึ้นอย่างสะอึกสะอื้น : “คุณเย่ คุณหนูเฟ่ย ขอร้องทั้งสองคนเห็นกับฉันที่รู้ตัวว่าผิด ครั้งนี้ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ.....ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะเดินมาถึงวันนี้ได้ ถ้าหากทั้งสองท่านปิดกั้นฉัน ฉันก็ไม่มีอะไรทั้งนั้นแล้ว.....”
เฟ่ยเข่อซินมองเธอแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองยังแมทธิว ปีเตอร์สันที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถามเขาขึ้นอย่างสนใจ : “คุณปีเตอร์สัน ให้พนักงานแบบนี้มาเป็นคนที่ร่วมหุ้นระดับสูงของบริษัทพวกคุณ คุณเป็นประธานกรรมการ ควรจะมีส่วนรับผิดชอบด้วยหรือเปล่าคะ?”
แต่เขาประเมินค่าของเสน่ห์ของตัวเองสูงเกินไป
สำหรับเอมิลี่แล้ว เงินต่างหากถึงจะเป็นบ่อเกิดของเสน่ห์ที่แท้จริง
เพียงแค่มีเงินเพียงพอ แม้จะให้เธอไปเผชิญหน้ากับคนแก่ๆที่อายุเก้าสิบปี เธอก็สามารถแสดงความหลงใหลออกมาได้อย่างไม่สามารถถอนตัวออกมาได้เลย

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...