แต่ ถ้าหากไม่มีเงิน ต่อให้อีกฝ่ายหล่อเหมือนกับทอม ครูซ เธอก็ยังคงไม่มองเหมือนเดิม
เมื่อครู่นี้เฟ่ยเข่อซินพูดว่าจะปิดกั้นเธอในอาชีพการออกแบบ ก็เป็นการตัดเส้นทางการหาเงินของเธอแล้ว คิดไม่ถึงว่าแมทธิว ปีเตอร์สันจะยังมาซ้ำเติมอีก ทำให้เธอโกรธจนยับยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
แมทธิว ปีเตอร์สันเองก็มองออกว่าเอมิลี่ดูเหมือนจะเสียสติไปบ้างแล้ว จึงรีบขยิบตาส่งสัญญาณให้กับเอมิลี่ : “เอมิลี่ อยู่ต่อหน้าคุณหนูเฟ่ย ทางที่ดีที่สุดคุณอย่าพูดจาเหลวไหล! ผมขอเตือนคุณว่าคุณออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้มาที่บริษัทไปพบหัวหน้าฝ่ายบุคคล เขาจะให้ค่าชดเชยการลาออกตามขั้นตอนกับคุณอย่างแน่นอน”
แมทธิว ปีเตอร์สันไม่กล้าพูดออกมาตรงเกินไป ที่เขาส่งสายตาบอกกับเอมิลี่ ในขณะเดียวกันก็พูดว่าจะให้ค่าชดเชยในการลาออกกับเธอตามขั้นต้อนนั้น ความจริงแล้วอยากจะบอกกับเอมิลี่ว่าตอนนี้ให้เธอแบกความรับผิดชอบนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ตัวเองจะปฏิบัติต่อเธออย่างเป็นธรรมแน่นอน
แต่ เวลานี้ในใจของเอมิลี่นั้นเต็มไปด้วยความโมโหที่ถูกแมทธิว ปีเตอร์สันซ้ำเติม ได้ยินแมทธิว ปีเตอร์สันพูดถึงค่าชดเชยในการลาออก เธอก็ยิ่งโมโหถึงขีดสุด เนื่องจากว่าตามกฎของบริษัทนั้น เธอที่เป็นพนักงานเข้ารับตำแหน่งเพียงแค่3-4ปี ค่าชดเชยในการลาออกมากที่สุดก็เป็นเพียงค่าจ้างครึ่งปีเท่านั้น
อีกทั้ง ถึงแม้ว่าแมทธิว ปีเตอร์สันจะเลื่อนเธอขึ้นมาเป็นคนร่วมหุ้นระดับสูงแล้ว แต่ตามกฎของบริษัท ผู้ร่วมหุ้นระดับสูงยังมีช่วงศึกษางานสามเดือน มีเพียงแค่สิ้นสุดช่วงเวลาศึกษางาน และหลังจากที่ผ่านการรายงานได้อย่างราบรื่น ถึงจะสามารถได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดของผู้ร่วมหุ้นระดับสูงได้อย่างเป็นทางการ
นี่ก็หมายความว่า ตอนนี้ถูกเลิกจ้างให้ออกไป บริษัทก็จำเป็นต้องยึดตามมาตรฐานเงินเดือนก่อนหน้านี้ของตัวเอง ชดเชยค่าจ้างครึ่งปีให้ตัวเอง นั่นเป็นเงินเพียงแค่สองสามแสนดอลลาร์เพียงเท่านั้น!
แมทธิว ปีเตอร์สันเอ่ยขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น : “รูปพวกนี้คุณเป็นคนส่งมาให้ผม จะมาพูดว่าผมคิดมุ่งหวังบ้างอย่างกับคุณเซียวได้ยังไง!”
เอมิลี่เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา : “ไม่ยอมรับใช่ไหม? ตรงนี้มีบันทึกการสนทนา สามารถให้คุณเย่และคุณหนูเฟ่ยดูได้ว่าคุณตอบฉันอย่างไร!”
ว่าแล้วเธอก็มองไปยังเฟ่ยเข่อซินอีกครั้ง แล้วโพล่งออกมาด้วยความโมโห : “คุณหนูเฟ่ยคะ คุณจะปล่อยคนที่ไร้ศีลธรรมเหมือนกับสัตว์ร้ายแบบนี้ไปไม่ได้นะ เขาเพียงแค่อยู่ในบริษัทก็มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับพนักงานผู้หญิงอย่างน้อยๆรวมฉันด้วยก็7คนแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด! ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ คนสารเลวคนนี้ลงมือกับลูกสาวบุญธรรมที่อายุสิบสามของเขามาแล้ว! และยังถ่ายคลิปวิดีโออนาจารเป็นจำนวนมากอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเขาอีกด้วย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...